รถบรรทุกไฟฟ้า CAT รุ่นใหม่ ขนาด 240 ตัน ถูกทดสอบใช้งานในเหมืองโคโลราโด
รถบรรทุกไฟฟ้า CAT รุ่นใหม่ ขนาด 240 ตัน ถูกทดสอบใช้งานในเหมืองโคโลราโด
รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รุ่นใหม่ CAT 793 XE Early Learner คันแรกของบริษัท แคทเทอร์พิลลาร์ (Caterpillar) หรือ CAT ถูกนำมาทดสอบใช้งานในเหมืองคริปเปิลครีก (Cripple Creek) และวิกเตอร์ (Victor) (CC&V) ในเมืองนิวมอนต์ (Newmont) ในเขตเทลเลอร์ (Teller) รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา โดยรถรุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่รับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 240 ตัน พร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมายช่วยในการขับอย่างปลอดภัย
การนำรถบรรทุกรุ่นใหม่มาใช้งานในเหมืองแร่ครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในการทดสอบและตรวจวัดประสิทธิภาพของตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รุ่นใหม่ CAT 793 XE Early Learner จากทั้งหมด 7 คัน ที่ถูกนำมาใช้งานภายใต้การพัฒนาขั้นที่ 2 ในโครงการ Early Learner EV หลังจากเปิดตัวต้นแบบครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2022 และการนำไปทดสอบใช้งานที่เหมืองแร่เวล (Vale) ในประเทศบราซิลเมื่อต้นปีนี้
สำหรับรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รุ่นใหม่ CAT 793 XE Early Learner ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนทำความเร็วได้สูงสุด 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ความเร็วจะลดลงเหลือ 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากต้องวิ่งขึ้นเนินชัน 10% และสามารถวิ่งไต่ขึ้นเนินชันต่อเนื่องเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจะถูกเปลี่ยนและส่งกลับไปยังแบตเตอรี่ ส่วนข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้บริษัทยังไม่เปิดเผยออกมามากนัก
“ภายในเวลาไม่ถึงสองปี บริษัทของเราได้ก้าวจากการปรับปรุงอุปกรณ์ที่มีอยู่เดิมในสนามทดสอบ ไปสู่การออกแบบโซลูชันที่แข็งแกร่งเพื่อเตรียมการตรวจสอบที่ไซต์งานของลูกค้า นี่จึงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ทุกอย่างในระบบส่งกำลังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่การทดสอบรถรุ่น CAT 793 ดำเนินต่อไป โดยผ่านการเรียนรู้และใช้งานจริง” ไบรอัน เวลเลอร์ (Brian Weller) รองประธานบริษัท แคทเทอร์พิลลาร์ (Caterpillar) กล่าวอธิบายเพิ่มเติม
สำหรับการพัฒนาระยะต่อไปของโครงการ Early Learner EV บริษัทพยายามบูรณาการรถบรรทุกไฟฟ้าหลายคันทำงานในสถานที่เดียวกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมรถบรรทุกจากระยะไกลร่วมกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อเป้าหมายเทคโนโลยีรถบรรทุกและรถขุดแร่ที่เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายและทำงานแบบอัตโนมัติ ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ครบวงจรภายในปี 2050 พร้อมทั้งลดระยะเวลาหยุดทำงานและต้นทุนการดำเนินงาน
ที่มาของข้อมูล
ที่มาของรูปภาพ
ข่าวแนะนำ
