The Line ซาอุฯ เผย จ่อขึ้นโครงการใช้เหล็กกล้าเบอร์ 1 ของโลก หลังใช้เหล็กกล้ารวมกว่า 20%
ทางการซาอุดีอาระเบีย เผยความคืบหน้าเดอะ ไลน์ (The Line) อภิมหาโปรเจกต์อาคาร 170 กิโลเมตร ว่ามีความต้องการใช้เหล็กกล้าไปกว่า 20% ของเหล็กกล้าทั่วโลกแล้วในตอนนี้
ทางการซาอุดีอาระเบีย เผยความคืบหน้าเดอะ ไลน์ (The Line) สุดยอดโครงการสร้างอาคารที่มีความยาวกว่า 170 กิโลเมตร ว่าเป็นโครงการที่มีการใช้เหล็กกล้าไปกว่าร้อยละ 20 ของเหล็กกล้าทั่วโลก พร้อมเคลมว่าทั้ง The Line และโครงการอื่น ๆ ภายใต้ NEOM จะกลายเป็นโครงการที่ต้องการเหล็กกล้ามากที่สุดในโลกภายในไม่กี่ทศวรรษต่อจากนี้
เบื้องหลังความต้องการเหล็กกล้าของ The Line
ข้อมูลนี้มาจากการรายงานของเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ Arabian Gulf Business Insight ที่อ้างอิงถึงการเปิดเผยข้อมูลจาก มานาร์ อัล มูนีฟ (Manar Al Moneef) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงุทนของนีออม (Neom's chief investment officer) ที่เผยภายในงานซาอุดิ โกลบอล ลอจิสติกส์ ฟอรัม (Saudi Global Logistics Forum) งานเสวนานานาชาติด้านการขนส่ง
ความต้องการเหล็กกล้าในโครงการเดอะไลน์ เป็นผลมาจากการวางโครงสร้างที่ต้องรองรับขนาดโครงการ 170 กิโลเมตร แม้ข้อมูลล่าสุดจากนิว แอตลาส (New Atlas) จะระบุว่าภายในปี 2030 นี้ โครงการจะอยู่ในช่วงของการวางรากฐานสำหรับ 2.4 กิโลเมตรแรกเท่านั้น
โดยเสาเข็มสำหรับโครงการช่วงแรก ได้ถูกวางไปแล้วกว่า 1,000 ต้น จากทั้งหมด 30,000 ต้น รวมถึงการสร้างโรงงานเพื่อผลิตโครงสร้างซีเมนต์สำหรับโครงการอีกกว่าวันละ 20,000 ลูกบาศก์เมตร ด้วยงบประมาณกว่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,300 ล้านบาท และการติดตั้งลิฟต์สำหรับโครงสร้างอาคาร
มานาร์ อัล มูนีฟ (Manar Al Moneef) ยังเผยอีกว่า กรณีตัวอย่างทั้งหมดนี้ล้วนประกอบขึ้นจากเหล็กกล้า ซึ่งทำให้ความต้องการเหล็กกล้าของ The Line อยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ของเหล็กกล้าในตลาดโลกในปัจจุบัน และจะส่งผลให้โครงการ NEOM กลายเป็นโครงการที่ต้องการเหล็กกล้ามากที่สุดในโลกในอีกไม่กี่ทศวรรษ (few decades) ต่อจากนี้
ภาพรวมโครงการ The Line
NEOM มีการเปิดเผยข้อมูลความคืบหน้าด้านการลงทุนและการก่อสร้าง The Line มากขึ้น ซึ่งบางส่วนเชื่อว่าเป็นการสร้างความมั่นใจและดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาหาเพิ่มขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า The Line อาจมีการหั่นขนาดโครงการลงตามที่ TNN Tech เคยรายงานอ้างถึงสื่อในต่างประเทศก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ The Line เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 เป็นแผนการสร้างอาคารรูปทรงกระจก ความสูง 500 เมตร กว้าง 200 เมตร และมีความยาวมากถึง 170 กิโลเมตร เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย สถานศึกษา โรงพยาบาล สนามกีฬา โรงแรม อาคารสำนักงาน และระบบการขนส่งความเร็วสูงเอาไว้ภายใต้ตัวตึก พร้อมผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด ภายใต้โครงสร้างอาคารที่มีขนาดใหญ่และทอดยาวข้ามทะเลทรายในเขตทาบูก (Tabuk) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ตามแผนโยบายซาอุดิอาระเบีย 2030 (Saudi Vision 2030) ของประเทศ
ข้อมูล Arabian Gulf Business Insight, New Atlas
ภาพ NEOM
ข่าวแนะนำ