ตำรวจแคลิฟอร์เนียเปิดตัว “Tesla Cybertruck” เวอร์ชันรถตำรวจ !
ตำรวจในแคลิฟอร์เนียเรียกเสียงฮือฮาบนโลกออนไลน์ ด้วยการเปิดตัวรถตำรวจโฉมใหม่ ที่ใช้ “เทสลา ไซเบอร์ทรัก” มาขับสังเกตการณ์ความเรียบร้อยให้กับประชาชนในพื้นที่
กรมตำรวจแห่งเมืองเออร์ไวน์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (California's Irvine Police Department) เปิดตัวการใช้งานรถยนต์กระบะพลังงานไฟฟ้าสุดล้ำ ไซเบอร์ทรัค (Cybertruck) จากบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง เทสลา (Tesla) เพื่อใช้เป็นรถตำรวจสำหรับงานประชาสัมพันธ์ และให้บริการดูแลประชาชนในพื้นที่
ทางกรมตำรวจฯ ได้จัดซื้อรถคันแรกมาในมูลค่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5 ล้านบาท โดยเผยว่าบทบาทหลักในการใช้รถคันนี้ คือการสนับสนุนการเข้าถึงชุมชน เพื่อให้ความรู้ในโครงการต่อต้านการใช้ยาเสพติด และโครงการริเริ่มอื่น ๆ รวมถึงใช้ตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินเมื่อจำเป็น
ส่วนเหตุผลที่รถคันนี้ มีการตกแต่งที่ดูโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งไฟส่องสว่างรอบตัวรถ หรือลวดลายที่อยู่บนฝากระโปรงหน้า ก็เพื่อให้รถคันนี้ดูมีความน่าสนใจ ดึงดูดสายตา และดูเข้าถึงง่าย ซึ่งจะเอื้อต่อการใช้งานในโครงการประชาสัมพันธ์ต่อต้านการใช้ยาเสพติดกับเยาวชนได้มากขึ้น
ทั้งนี้คุณสมบัติเด่นของรถ Tesla Cybertruck อยู่ตรงที่การออกแบบมาให้มีความทนทานสูง รองรับการขับขี่ในทุกสภาพพื้นผิวถนน มีระบบกันการสั่นสะเทือนแบบถุงลมอัตโนมัติด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โครงสร้างภายนอกทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม แข็งแรงกันกระสุนปืน ลดรอยขีดข่วนและรองรับการชน
นอกจากความแข็งแรงทนทานแล้ว Tesla Cybertruck ยังรองรับการบรรทุกน้ำหนักถึง 1,134 กิโลกรัม รวมไปถึงการลากจูงสิ่งของที่มีน้ำหนัก 4,990 กิโลกรัม สามารถเดินทางได้ระยะทาง 547 กิโลเมตร ต่อการชาร์จพลังงานไฟฟ้า 1 ครั้ง และทำความเร็วสูงสุดที่ 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การเปิดตัวมา Tesla Cybertruck เจอกับปัญหาอยู่บ่อยครั้ง โดยเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา เทสลาประกาศว่าจะเรียกคืนรถมากกว่า 27,000 คันในสหรัฐฯ เนื่องจากปัญหาภาพจากกล้องมองหลังที่ล่าช้า ซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็นของผู้ขับขี่ และเพิ่มความเสี่ยงในการชน แต่ทางกรมตำรวจฯ ระบุว่าได้ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการเรียกคืนดังกล่าว เนื่องจากมีศูนย์ซ่อมเทสลาอยู่ใกล้ ๆ และคาดว่าจะใช้งานรถคันนี้ได้ยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งมากกว่ารถสายตรวจทั่วไปที่มีอายุใช้งานราว 3-4 ปี
ข้อมูลจาก reutersconnect, theguardian
ข่าวแนะนำ