อังกฤษเลิกใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้า หลังพึ่งพากว่า 142 ปี เดินหน้าผลิตไฟฟ้าไร้คาร์บอนปี 2030
อังกฤษปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินที่สุดท้ายของประเทศ หลังใช้งานกว่า 57 ปี ปิดฉากระยะเวลารวม 142 ปี ในการใช้พลังงานถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้าให้ประเทศ
พลังงานถ่านหิน (Coal power) เป็นหนึ่งในแหล่งการผลิตไฟฟ้าสำคัญของทั่วโลก เนื่องจากมีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ แต่ก็แลกกับการปล่อยมลพิษสูงกว่าแหล่งพลังงานอื่น ๆ เช่น พลังงานนิวเคลียร์ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ และล่าสุด อังกฤษ ได้ประกาศปิดโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินโรงสุดท้ายของประเทศ หลังใช้งานมานานกว่า 57 ปี ส่งผลให้ประเทศอังกฤษสามารถยุติการใช้พลังงานถ่านหินโดยสิ้นเชิง นับตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกในปี 1882 หรือตลอด 142 ปี ที่ผ่านมา
โรงไฟฟ้าถ่านหินที่สุดท้ายของอังกฤษ
โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน แรทคลิฟฟ์-ออน-ซอร์ (Ratcliffe-on-Soar Power Plant) ตั้งอยู่ในเมืองน็อตติงแฮมเชอร์ (Nottinghamshire) เมืองทางตอนเหนือของอังกฤษ เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1968 ประกอบไปด้วยหม้อต้ม (Boiler) 4 สถานี ให้กำลังการผลิตรวม 2.1 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งป้อนกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบให้กับประชากรกว่า 2 ล้านคน ในแต่ละปี
ในปี 2009 มีการประเมินว่า โรงไฟฟ้าแรทคลิฟฟ์-ออน-ซอร์ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 8 - 10 ล้านตัน สูงเป็นอันดับที่ 18 ของโรงไฟฟ้าถ่านหินในยุโรป ณ ขณะนั้น แต่ก็เป็นหัวใจที่คนในพื้นที่ยังขาดไม่ได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
ถ่านหิน อดีตที่พึ่งไฟฟ้าของอังกฤษ
อังกฤษเคยพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 39 ในปี 2012 ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่สูง รวมไปถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลานั้น ซึ่งสวนทางกับนโยบายรัฐบาลอังกฤษ ที่วางแผนจะหยุดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินทั่วประเทศ รวมถึงที่แรทคลิฟฟ์-ออน-ซอร์ ภายในปี 2014
แม้ว่าอังกฤษจะสามารถลดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินจนเหลือเพียงร้อยละ 2 ได้ในปี 2019 ตามการรายงานของเอ็มเบอร์ (Ember) องค์กรคลังสมองอิสระด้านพลังงานระดับโลกในอังกฤษ แต่ก็ไม่สามารถบรรลุดแผนการยุติการใช้พลังงานถ่านหินผลิตไฟฟ้าได้ อีกทั้งวิกฤติการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติที่พุ่งสูงขึ้นในปี 2021 จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ต่างก็เป็นผู้ส่งออกหลักของโลก ทำให้ต้องมีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินเพิ่มขึ้นเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว ส่งผลให้แผนการยุติการใช้งานถ่านหินถูกเลื่อนมาเป็นปี 2024 ซึ่งก็สามารถทำได้ในท้ายที่สุด
ก้าวต่อไปพลังงานไฟฟ้าอังกฤษ
โดยที่แรทคลิฟฟ์-ออน-ซอร์ ได้มีการขนส่งถ่านหินครั้งสุดท้ายผ่านทางรถไฟในเดือนมิถุนายน ก่อนที่จะผลิตเชื้อเพลิงจนกระทั่งถึงช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา และนับเป็นสัญญาณสิ้นสุดการใช้พลังงานถ่านหินทั้งหมดในอังกฤษ
อังกฤษนับเป็นชาติแรกในกลุ่มชาติผู้นำอุตสาหกรรม (G7) ที่สามารถยุติการใช้พลังงานจากถ่านหินได้สำเร็จ โดย Ember ประเมินว่านับตั้งแต่ปี 2012 อังกฤษลดการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 880 ล้านตัน และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่หายไปครึ่งหนึ่งในปี 2023 ที่ผ่านมา ก็สามารถคิดเป็นค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลสามารถประหยัดไปได้รวม 2,900 ล้านปอนด์ หรือกว่า 125,600 ล้านบาท
ขั้นต่อไปของแผนการพัฒนาด้านพลังงานของอังกฤษคือการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและเป็นประเทศที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระบบการผลิตไฟฟ้า (decarbonized power system) ภายในปี 2030 นี้
ข้อมูล Interesting Engineering, Wikipedia
ภาพ Wikipedia
ข่าวแนะนำ