TNN นวัตกรรมการปลูกพืชแนวตั้ง รับมือกับเกาะความร้อนในเมือง

TNN

Tech

นวัตกรรมการปลูกพืชแนวตั้ง รับมือกับเกาะความร้อนในเมือง

นวัตกรรมการปลูกพืชแนวตั้ง รับมือกับเกาะความร้อนในเมือง

บริษัทในเยอรมนี ออกแบบเฟอร์นิเจอร์กลางเมือง ที่ผสานการปลูกพืชแบบแนวตั้ง กลายเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และยังช่วยแก้ปัญหาของเกาะความร้อนในเมือง

ปัจจุบันนี้หลายเมืองทั่วโลกประสบปัญหา “เกาะความร้อนในเมือง” (Urban heat islandI) หรือการที่พื้นที่ภายในเมือง หรือบนถนนหนทางต่าง ๆ มีการกักเก็บความร้อนสูง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการจราจรและการใช้วัสดุดูดซับความร้อนในโครงสร้างพื้นฐาน


นวัตกรรมการปลูกพืชแนวตั้ง รับมือกับเกาะความร้อนในเมือง ภาพจาก รอยเตอร์

ด้วยเหตุนี้จึงมีหลายบริษัทหรือองค์กร ที่อยากจะหาวิธีแก้ความร้อนนี้ให้หายไป หนึ่งในนั้นคือ โอเอ็มซี ซี (OMC°C) จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาโซลูชันด้านการออกแบบเชิงนิเวศและการก่อสร้างเพื่อนำธรรมชาติเข้าสู่สภาพแวดล้อมในเมือง โดยได้นำเสนอโซลูชันการปลูกพืชแนวตั้ง ที่จะช่วยเพิ่มสีเขียวในเมืองให้มากขึ้น 


ระบบนี้จะใช้การปลูกพืชไม้เลื้อยกว่า 25 สายพันธุ์เพื่อสร้างร่มเงาและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ โดยพืชแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ออกดอกดี หรือมีกลิ่นหอม ซึ่งพืชเหล่านี้ต้องการพื้นที่สำหรับรากที่น้อยลง และไม่ต้องการน้ำมากไป นอกจากนี้การออกแบบโครงสร้างสำหรับการปลูกพืชที่พัฒนาขึ้น บริษัทเคลมว่าจะทำให้พืช กระจายความร้อนโดยรอบออกไปได้ด้วย


โดยบริษัทได้เข้าร่วมงานเทศกาลการออกแบบในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประจำปี 2024 โดยเพื่อจัดแสดงผลงานการปลูกพืชแนวตั้ง ในชื่อว่า เวิร์ต (Vert) ที่ผสานไปกับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง โดยเป็นโครงสร้างของม้านั่งขนาดใหญ่ สำหรับใช้พักผ่อนหย่อนใจ รับร่มเงาของพืช


ผลงานนี้นอกจากจะใช้เป็นจุดนั่งพักผ่อนและทำกิจกรรมกลางแจ้งได้แล้ว ยังแสดงการเติบโตของพืชพรรณตามฤดูกาล ที่ให้ร่มเงาได้ตลอดทั้งปี เป็นแนวทางที่ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการทำให้อุณหภูมิเมืองเย็นขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น


ผลงานนี้ยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยรวมในเขตเมือง ซึ่งทีมพัฒนาหวังว่าโซลูชันการปลูกพืชที่ผสานไปกับงานออกแบบ และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ นี้จะช่วยแก้ปัญหาเกาะความร้อนสูงในเมือง อันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ได้อีกด้วย


ข้อมูลจาก reutersconnect

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง