ในงาน Apple Event เมื่อคืนวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ทาง Apple ได้ทำการเปิดงานด้วย Apple Watch Series 10 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ครบรอบ 10 ปีของ Apple Watch อย่างพอดี และจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังไม่เกิดขึ้นมานาน ตั้งแต่รุ่น 4
ในงาน Apple Event เมื่อคืนวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ทาง Apple ได้ทำการเปิดงานด้วย Apple Watch Series 10 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ครบรอบ 10 ปีของ Apple Watch อย่างพอดี และจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังไม่เกิดขึ้นมานาน ตั้งแต่รุ่น 4
ความพิเศษของ Series 10 มาพร้อมกับจอที่ใหญ่ขึ้น โดยจะใหญ่กว่าจอของ Series 6 ถึง 30% และใหญ่กว่า Apple Watch Ultra เล็กน้อย จอเป็น OLED ให้ความสว่างมากกว่ารุ่นก่อน 40% สามารถแสดงผลในมุมด้านข้างสว่างมากขึ้น ทำให้สามารถดูข้อมูลได้ดีขึ้นแม้เอียงนาฬิกาดูบนข้อมือ
ในจอจะมีการอัปเดตทุก ๆ วินาที โดยตัวเข็มวินาทีจะแสดงขึ้นเสมอ แม้อยู่ในโหมด Ambient ก็ตาม นอกจากนี้ทั้งตัวจอและเคสของ Apple Watch Series 10 จะมีมุมที่โค้งมนมากกว่ารุ่นก่อนหน้า
ซึ่งนอกจากจอจะใหญ่ขึ้นแล้ว ตัวเครื่องยังบางกว่ารุ่น 9 ถึง 10% บางลงเหลือ 9.7 มิลลิเมตร และเบากว่า 10% นอกจากนี้ยังมีลำโพงที่ออกแบบมาให้ใหม่โดยเฉพาะ โดยจะมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม 30% และเป็นครั้งแรกที่ Apple Watch จะเล่นพวกเสียงจากสื่อต่าง ๆ ได้ เช่น เพลง หรือพอดแคสต์ เป็นต้น
ฝาหลังเป็นโลหะ ซึ่งผสานตัวเข้ากับเสาอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลลูลาร์ และทนน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร มาพร้อมกับมาตรวัดความลึกในตัว แถมมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิของน้ำมาให้อีกด้วย และยังได้เพิ่มแอพ Tides สำหรับการเล่นเซิร์ฟ ตกปลา และการติดตามใต้น้ำอื่น ๆ รวมไปถึงแอป Oceanic Plus สำหรับนักดำน้ำตื้นมาให้
ตัวเรือนใช้อลูมิเนียมรีไซเคิล 95% และผลิตด้วยไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ทางบริษัทระบุว่าไม่ก่อให้เกิดคาร์บอนใด ๆ ระหว่างการผลิต
ด้านชิปประมวลผลเองก็เป็นของใหม่ โดยจะใช้ตัวชิปที่ชื่อว่า S10 SIP (System in Package) ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อน ตัวแบตเตอรี่อึดกว่าเดิม ใช้ได้นาน 18 ชั่วโมง และสามารถชาร์ตเต็ม 80% ได้ใน 30 นาที
สำหรับด้านฟีเจอร์การใช้งานใหม่ ๆ จะเป็นรุ่นแรกที่จะมีระบบ "ติดตามภาวะหยุดหายใจขณะหลับ" ซึ่งใช้เทคโนโลยี Machine Learning เพื่อค้นหาความผิดปกติของการหายใจในช่วงกลางคืน แต่ระบบนี้ทาง Apple กำลังรอการอนุมัติจาก FDA อยู่
ประมวลผลด้วยระบบ watchOS 11 ที่จะมาพร้อมด้วยลูกเล่นที่หลากหลายขึ้น รวมไปถึงแอป Vitals ใช้สำหรับตรวจสอบเมตริกในช่วงข้ามคืน โหลดแผนการเทรนนิ่งใหม่ ๆ รวมไปจนถึงข้อมูลของการตั้งครรภ์
Apple Watch Series 10 มีให้เลือก 2 รุ่น 2 ราคา รุ่น GPS ราคา 399 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13,600 บาท ส่วนรุ่น GPS + Cellular จะมีราคาอยู่ที่ 499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16,900 บาท มีให้เลือก 3 สี สีดำเจ็ทแบล็ก, โรสโกลด์, และอะลูมิเนียมสีเงิน
ส่วนสายนาฬิการุ่นใหม่ จะเป็นการจับมือร่วมกับทางแบรนด์ของ Nike และ Hermès