NEPS จับมือ LONGi ชูนวัตกรรมแผงโซลาร์ใหม่ ดีไซน์สวย

บริษัท NEPS ตัวแทนจำหน่ายแผงโซลาร์ ร่วมกับบริษัทผู้พัฒนาแผงโซลาร์เซลล์สัญชาติจีน LONGi เปิดตัว 2 โปรดักส์โซลาร์นวัตกรรมใหม่ของโลกครั้งแรกในไทย ! ชูจุดเด่นเทคโนโลยี BC (Back Contact) เชื่อมวงจรทั้งหมดที่ด้านหลังของเซลล์ ทำให้หน้าแผงสามารถรับแสงได้เต็มที่ จึงทำให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของเซลล์ที่มีเทคโนโลยี BC สูงกว่าร้อยละ 25 

โดยมีผลิตภัณฑ์อย่าง “แผงโซลาร์เซลล์รุ่น HI-MO X6 Ultra Black” ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึงร้อยละ 23.2 ซึ่งมากกว่าแผงโซลาร์ทั่วไป และอีกผลิตภัณฑ์คือ “BIPV” (Building-integrated photovoltaics) แผงโซลาร์เซลล์นวัตกรรมใหม่ที่รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร สามารถนำไปผสานกับวัสดุก่อสร้างภายนอกได้ 

ทั้งนี้ HI-MO X6 Ultra Black คว้ารางวัลระดับนานาชาติได้ถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล A’ Design Award & Competition และ French Design Awards มาพร้อมศักยภาพการผลิตไฟฟ้าได้ดีในสภาวะที่อุณหภูมิสูง และการแผ่รังสีต่ำ ทำให้การทำงานของตัวแผงโซลาร์เซลล์สามารถมีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าผลิตสูงถึงร้อยละ 23.2 ด้วยขนาด 1722 x 1134 x 30 mm โดยใช้ฟิล์ม POE ชนิดพิเศษห่อหุ้มแผงเซลล์ ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานสูง แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง ควบคู่กับดีไซน์ตัวแผงสีดำสนิท และพื้นผิวที่มีความหยาบทำให้แสงที่ตกกระทบลงมาไม่สะท้อนออก เพิ่มการดูดซับแสงได้ดีกว่าปกติ 

นอกจากนี้ LONGi ยังเป็นบริษัทที่คิดค้นและผลิต BIPV หรือ เซลล์แสงอาทิตย์แบบผสานวัสดุอาคารรายต้นของโลก เป็นการนำแผงโซลาร์มาผสานกับวัสดุก่อสร้างที่ใช้ประกอบภายนอกอาคารได้  เช่น  กำแพง หน้าต่าง ช่องกระจก หรือผนัง ซึ่งจะช่วยให้อาคารสามารถรับพลังงานแสงอาทิตย์ได้รอบด้าน 

ทั้งนี้ทาง LONGi ได้กำหนด 5 สีหลักที่เหมาะสมกับงานดีไซน์อาคาร ได้แก่ Ocean Blue, Space Gray, Eclipse Red, Galaxy Silver และ Cosmic Beige ซึ่งนับเป็นการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันด้านโซลาร์ ด้วยเทคโนโลยีที่ผสานเข้ากับวัสดุอาคาร เพื่อมุ่งสู่การสร้างอาคารเขียว (Green Building) ที่ไม่เพียงผลิตพลังงานไฟฟ้า แต่ยังสามารถป้องกันความร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เรียกว่าเป็นการยกระดับธุรกิจพลังงานในไทยไปอีกขั้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังกับ NEPS ในครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจโซลาร์ของไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS กล่าวว่า NEPS ดำเนินธุรกิจโซลาร์มาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ให้บริการแบบ One Stop Solution ทั้งนี้ธุรกิจโซลาร์ในปัจจุบัน นับว่าเป็นยุคที่มีการแข่งขันสูงมาก แม้ว่าจะมีการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมากกว่าในอดีตที่ผ่านมาก็ตาม แต่ยังคงต้องพัฒนาตัวเองและคัดสรรสินค้าที่มีเทคโนโลยีใหม่ พร้อมด้วยดีไซน์ที่สวยงามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น 

คุณหม่า เหมิง (Ma Meng) ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเวียดนาม บริษัท ลอนจี กรีน เอเนอร์จี เทคโนโลยี จำกัด หรือ LONGi กล่าวว่า LONGi เริ่มเข้ามาทำตลาดโซลาร์ในไทยเมื่อปี 2560 เพราะเห็นถึงแนวโน้มความต้องการด้านโซลาร์ในประเทศไทย ประกอบกับไทยเปิดเสรีในด้านเทคโนโลยี รวมถึงปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายด้านพลังงานแสงอาทิตย์มากมาย

ทั้งนี้จากข้อมูล BNEF (Bloomberg New Energy Finance) จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน LONGi ยังครองตำแหน่งผู้ผลิตแผงโซลาร์อันดับ 1 ของโลก ปัจจัยหลักคือให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยทุ่มงบประมาณหลักพันล้านดอลลาร์ (Billion Dollar) ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่มากที่สุดในบริษัทผลิตแผงโซลาร์ เพื่อให้ได้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานที่สูงขึ้น 

สำหรับภาพรวมตลาดโซลาร์ในปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบีพบว่า ตั้งแต่ปี 2565 ตลาดโซลาร์รูฟในประเทศไทยมีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 22 ต่อปี และจะเติบโตไปถึง 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568 ทั้งนี้ผลพวงมาจากการพัฒนาโซลาร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คนสามารถเข้าถึงโซลาร์รูฟได้มากกว่าแต่ก่อน อีกทั้งพฤติกรรมของคนในสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไปก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น ทั้งเรื่องทำงานในรูปแบบ Work From Home , การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตในบ้านเป็นส่วนใหญ่, ปริมาณการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า (EV), กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ (Pet Humanization) และข้อสำคัญคือ ค่าไฟฟ้าที่แพงมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดโซลาร์รูฟโตขึ้นเป็นเงาตามตัว

ที่มาข้อมูลและรูปภาพ หมายข่าวประชาสัมพันธ์จาก NEPS