กินไหม ? “เนยไร้นม” ผลิตจากคาร์บอนไดออกไซด์และ น้ำ ?
‘เนยไร้นม’ ผลิตภัณฑ์สุดทึ่งจากสตาร์ตอัปในสหรัฐอเมริกา ผลิตโดยใช้เพียงคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ
“เซเวอร์” (Savor) สตาร์ตอัปจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เสนอผลงานสุดบรรเจิดทําเนยจากคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และไฮโดรเจนจากน้ำ ด้วยกระบวนการทางอุณหเคมี (Thermochemical process) หรือเคมีความร้อน ทางเลือกใหม่สุดล้ำแสนอร่อยสำหรับผู้ไม่บริโภคเนื้อสัตว์และยังรักษ์โลกเพราะปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
บิล เกตส์ อดีต CEO ของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างไมโครซอฟต์ (Microsoft) หนึ่งในผู้สนับสนุนทุนแก่สตาร์ตอัปนี้ ระบุในเว็บบล็อกส่วนตัว “เกตส์โน้ตส์“ (GatesNotes) ว่า แนวคิดของเซเวอร์เริ่มต้นด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าไขมันสร้างขึ้นจาก ห่วงโซ่อะตอมของคาร์บอนและไฮโดรเจนจำนวนมาก ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างห่วงโซ่อะตอมดังกล่าวได้ โดยปราศจากส่วนประกอบจากสัตว์หรือพืช ด้วยกระบวนการอุณหเคมีที่นําคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศและไฮโดรเจนจากน้ํา มาทําให้ร้อนขึ้น และทำให้เกิดปฏิกริยาออกซิเดชัน (Oxidation) เพื่อกระตุ้นการแยกกรดไขมัน และเกิดเป็นไขมันในที่สุด
กระบวนการดังกล่าวสามารถผลิตเนยได้ง่ายและผลิตในจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่ามันยังไม่ปล่อยแก๊สเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ต่างจากการผลิตเนยแบบปกติที่ต้องอาศัยการเลี้ยงวัว ตามรายงานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (United Nations Food and Agriculture Organization: FAO) ก๊าซเรือนกระจกจากภาคส่วนปศุสัตว์นับเป็น 14.5% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก อีกทั้งประหยัดพื้นที่ในการทำฟาร์มและยังใช้น้ำน้อยกว่าการทำการเกษตรแบบดั้งเดิม นี่จึงเป็นตัวเลือกใหม่ในการผลิตเนยแห่งอนาคตในแง่ของการรักษาสิ่งแวดล้อม
ด้านรสชาติ เกตส์ ซึ่งปรากฏตัวในวิดีโอ YouTube ร่วมกับทีมงานจากเซเวอร์ได้ลิ้มลองรสชาติของเนยและอาหารที่ปรุงจากเนยที่สร้างจากแค่คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำนี้กล่าวว่า ไม่สามารถแยกได้ว่านี่ไม่ใช่เนยที่ทำจากนม เพราะมันมีรสชาติอร่อยเหมือนเนยแท้ ๆ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วก็ถือว่าเป็นการกล่าวที่ไม่เกินจริงเพราะมันมีส่วนประกอบทางเคมีที่ไม่ต่างกัน
ความท้าทายต่อไปของเซเวอร์คือการจูงใจผู้บริโภค ทั้งผู้ที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์และชุมชนวีแกน ให้หันมาสนใจเนยแห่งอนาคตนี้ รวมถึงการปรับราคาให้เทียบเท่าหรือถูกกว่าเนยทั่วไปเพื่อให้สินค้าเข้าถึงตลาดผู้บริโภคส่วนมากได้
เนยจากคาร์บอนไดออกไซด์และไฮโดรเจนนี้เป็น เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเพราะเซเวอร์ กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้งนม ไอศครีม ชีส เนื้อสัตว์ และน้ำมันพืชทางเลือกในปัจจุบัน แม้จะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับราคาหรือคุณค่าทางโภชนาการอย่างละเอียด คงต้องจับตากันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
ที่มาช้อมูล Newatlas
ข่าวแนะนำ
