NVIDIA อยู่เบื้องหลังตึกกลมและจอ LED ใหญ่ที่สุดในโลก - The Sphere
NVIDIA ออกมาเผยเบื้องหลังการทำงานของชิป NVIDIA กับ The Sphere ตึกและจอ LED ทรงกลมที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยขนาดเกือบ 54,000 ตารางเมตร ที่มีมูลค่าโครงการกว่า 80,000 ล้านบาท
เดอะ สเฟียร์ (The Sphere) เป็นจอแอลอีดี (LED) ทรงกลม และยังเป็นอาคารทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกว่าจะได้จอที่เป็นภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายนอกอาคาร โครงการ The Sphere จำเป็นต้องใช้พลังการทำงานของชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) จากแบรนด์ดังอย่างเอนวิเดีย (NVIDIA) กว่า 150 ตัว
รายละเอียดโครงการ The Sphere
เดอะ สเฟียร์ หรือ แมดิสัน สแควร์ การ์เดน สเฟียร์ (Madison Square Garden Sphere) ตั้งอยู่กลางย่านพาราไดซ์ ในลาสเวกัส (Las Vegas) รัฐเนวาดา ใช้งบลงทุนประมาณ 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 80,000 ล้านบาท จนกลายเป็นอาคารที่มีความสูง 111 เมตร กว้าง 157 เมตร เป็นตึกทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลกไป
แต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุด คือภายนอกของตัวอาคาร ที่ติดตั้งชุดหลอดไฟแอลอีดีกลม หรือแอลอีดี ปั๊ก (LED Puck) ซึ่งภายในจะมีหลอดแอลไฟอีดีอีก 48 ตัว มาเรียงต่อกันเป็นทรงกลม ทำให้ได้ LED Puck คลุมรอบทั้งอาคาร 1,200,000 ชุด หรือคิดเป็นหลอดไฟ LED กว่า 57,600,000 หลอด
ด้วยเหตุนี้ The Sphere จึงกลายเป็นหน้าจอ LED ทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีหน้าจอแอลอีดีพื้นที่กว่า 580,000 ตารางฟุต หรือเกือบ 54,000 ตารางเมตร ซึ่งทางโครงการสามารถป้อนคำสั่งให้แสดงผลได้ตามต้องการ
โครงการ The Sphere กับ NVIDIA
ทั้งนี้ NVIDIA ออกมาเปิดเผยว่า การทำงานของ LED Puck ทุกชุดของ The Sphere ล้วนถูกควบคุมการแสดงผลโดยชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) ของ NVIDIA รุ่น RTX A6000 กว่า 150 ตัว รวมถึงจอภายในโครงการ The Sphere ขนาด 16K x 16K ที่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานด้วย
นอกจากชิปประมวลแล้ว NVIDIA ยังเข้ามาสนับสนุนระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงผลของ The Sphere เนื่องจากว่าการส่งสัญญาณพร้อม ๆ กันโดยไม่มีการจัดสรรที่เหมาะสม LED Puck แต่ละจุดจะแสดงผลไม่พร้อมกันได้ รวมถึงการจัดการติดต่อสื่อสารของชิป RTX A6000 กว่า 150 ตัว ซึ่งกระจายหน้าที่การสั่งงานแผงหน้าจอภายนอกแต่ละส่วน
ด้วยเหตุนี้ NVIDIA ได้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าเอนวิเดีย บลูฟิลด์ ดีพียู (NVIDIA BlueField DPU) ที่เปรียบเสมือนแกนกลางของ RTX A6000 ทุกตัวอีกทีหนึ่ง เพื่อเข้ามาสั่งการและติดต่อสื่อสารระหว่างชิปด้วยกัน ตลอดจนเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ NVIDIA เช่น NVIDIA ConnectX-6 Dx NIC, NVIDIA DOCA Firefly Service และ NVIDIA Rivermax software เพื่อให้ภาพการแสดงผลของ The Sphere เห็นลื่นไหล
ทั้งนี้ รายงานของพีซี แมก (PC MAG) รายงานว่า The Sphere มีความต้องการใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 28 เมกะวัตต์ (MW) หรือเทียบเท่ากับความต้องการไฟฟ้าจากบ้านเรือนกว่า 21,000 หลัง ในลาสเวกัส ซึ่ง TNN Tech มองว่า The Shpere เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยีที่มีเบื้องหลังซึ่งทั้งไม่ง่ายและมีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน
ข้อมูลจาก NVIDIA Blog, PC Mag
ภาพจาก The Sphere
ข่าวแนะนำ