TNN ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

TNN

Tech

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

IDC เผยตลาดซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม AI ของประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตต่อปี อยู่ที่ 43.1% โดยในปี 2570 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 5,200 ล้านบาท โดยมีหลายปัจจัยสนับสนุน

ภายในงาน Intel AI Summit ซึ่งเป็นงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ด้าน AI ของอินเทลที่จัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของภาคอุตสาหกรรม AI ในปัจจุบันและศักยภาพการเติบโตในอนาคต


ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท


IDC ผู้ให้บริการด้านการวิจัยและให้คำปรึกษาด้านไอทีชั้นนำระดับโลก และเป็นหนึ่งในวิทยากรในงานเสวนาครั้งนี้ ได้คาดการณ์ว่าตลาดซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม AI ของประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 43.1% ในช่วงปี 2566 ถึง 2570 โดยในปี 2570 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 141.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,200 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัยสำคัญ อาทิ การนำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ AI แห่งชาติ (พ.ศ. 2565-2570) มาใช้ การฝึกอบรมด้าน AI แก่บุคลากรกว่า 80,000 คน และการจัดสรรงบประมาณ 1,290 ล้านบาท เพื่อการวิจัยและพัฒนา AI นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย โดยการเปิดตัวระบบเครือข่าย 5G และระบบบรอดแบนด์ความเร็วสูง อีกทั้งยังมีการจัดตั้งแพลตฟอร์มระดับประเทศสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง


ในช่วงการบรรยายของ IDC ยังตอกย้ำถึงความสนใจใน AI ที่กำลังเติบโตในภาคธุรกิจของไทย โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับกลยุทธ์ AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจขององค์กรอีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท


AI สำหรับทุก ๆ ที่ เพื่อทุก ๆ คน

งาน AI Summit ของอินเทล เน้นย้ำถึงการแทรกซึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปในทุก ๆ ที่ ในโลกที่ทุกประเทศและทุกอุตสาหกรรมต่างแข่งขันกันเพื่อมุ่งสู่การใช้ AI อินเทลเป็นบริษัทเดียวที่มีแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เต็มรูปแบบ ในการนำเสนอโซลูชันแบบเปิดและแบบโมดูลาร์ เพื่อปรับปรุงต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership: TCO) ที่คุ้มค่า เข้าถึงได้ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในยุค AI Everywhere นี้


กลยุทธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ของอินเทลมุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางที่เปิดกว้าง โดยการมีส่วนร่วมกับระบบนิเวศของนักพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญในการลดอุปสรรคในการเข้าถึงและปลดล็อกนวัตกรรมสำหรับนักพัฒนาและลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ที่มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบ และเข้าถึงได้อย่างแท้จริง


ขณะนี้ อินเทลกำลังสร้างแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่จะผสานรวม AI เข้ากับความปลอดภัยสำหรับลูกค้าของเรา เพื่อให้ข้อมูลและโมเดล AI ทั่วทั้งศูนย์ข้อมูล คลาวด์ พีซี และ Edge มีความปลอดภัยสูงสุด



ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน ! อุตสาหกรรม AI ไทยกำลังเติบโต ภายใน 3 ปีจะมีมูลค่าถึง 5,200 ล้านบาท


การสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI


งานสัมมนาได้ดำเนินไปตลอดวันเต็ม มีการนำเสนอและสาธิตจากผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISVs) และพันธมิตรกว่า 26 ราย ซึ่งทั้งหมดใช้เทคโนโลยี AI ของ Intel การอภิปรายได้ครอบคลุมถึงพอร์ตโฟลิโอ AI ที่หลากหลายของอินเทล ซึ่งรวมถึงโซลูชัน AI ที่ขอบเครือข่าย โซลูชันแบบเปิดที่สามารถปรับขยายได้ และพอร์ตโฟลิโอซอฟต์แวร์ AI โดยมีการนำเสนอโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra และ Intel® Gaudi® 3 AI Accelerator


โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel® Core™ Ultra เป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีการประมวลผล Intel 4 และยังเป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่ได้ใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแบบ 3 มิติ ด้วยเทคโนโลยี Foveros ซึ่งมีความสามารถในการเร่งการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ เข้ากับหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) หน่วยประมวลผลกราฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) และหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (Neural Processing Unit: NPU) โมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra จึงเป็นโปรเซสเซอร์ที่รองรับความสามารถในการประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์และช่วยประหยัดพลังงานมากที่สุดของอินเทล


กิจกรรมหลักของงานเสวนาครั้งนี้ยังมีการนำเสนอโดยอินเทลและการจัดแสดงนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น Gorilla Technology Group และ Microsoft และนอกจากการนำเสนอโดย IDC แล้ว ยังมีการเสวนาที่เจาะลึกถึงความท้าทาย โอกาส และข้อพิจารณาด้านจริยธรรมของการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ AI ที่กำลังพัฒนา โดยมีอินเทลและพันธมิตร ได้แก่ AIS, Baker McKenzie, IBM, และ True IDC เข้าร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกในหัวข้อสำคัญนี้


ที่มารูปภาพและข้อมูล หมายข่าวประชาสัมพันธ์จาก Intel

ข่าวแนะนำ