สหรัฐอเมริกาติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 5 ล้านแผ่นทั่วประเทศ ตั้งเป้าเพิ่ม 2 เท่า ในปี 2030 นี้
เปิดรายงานการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในสหรัฐอเมริการวมกว่า 5 ล้านแผ่น โดยส่วนใหญ่มาจากการติดตั้งในบ้านเรือนกว่า 97% ของแผงโซลาร์เซลล์ทั้งประเทศ
สมาพันธ์อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy Industries Association: SEIA) ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่ามีแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งทั่วสหรัฐฯ กว่า 5 ล้านแผ่น พร้อมคาดการณ์ว่าจำนวนแผงโซลาร์เซลล์ทั่วประเทศจะไต่ขึ้นเป็น 10 ล้านแผ่น ในปี 2030 และ 15 ล้านแผ่น ในปี 2034 หรืออีก 10 ปี ต่อจากนี้
รัฐแคลิฟอร์เนียติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ในรายงานของ SEIA ระบุว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มากที่สุดถึง 2 ล้านแผ่น ส่วนที่เหลือมาจากรัฐอิลินอยส์ และฟลอริดาเป็นหลัก โดยครึ่งหนึ่งของสถิตินี้ติดตั้งและเริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา และกว่า 1 ใน 4 ของแผงโซลาร์เซลล์ในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญหลังการออกกฎหมายลดภาวะเงินเฟ้อ หรือที่เรียกว่า Inflation Reduction Act เมื่อ 20 เดือนก่อน
รายงานยังระบุอีกด้วยว่ากว่าร้อยละ 97 หรือประมาณ 4.85 ล้านแผ่นโซลาร์เซลล์อยู่บนหลังคาของภาคส่วนที่อยู่อาศัยอย่างบ้านเดี่ยวหรือคอนโดมีเนียม เนื่องจากเจ้าของบ้านต่างต้องการควบคุมค่าไฟที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนโดยการลงทุนกับแผงโซลาร์เซลล์ที่ดูยั่งยืนและใช้งานได้จริง
การคาดการณ์อนาคตของแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศ
ทั้งนี้มีบ้านเรือนกว่าร้อยละ 7 ที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และ SEIA คาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15 ในปี 2030 นี้ โดยมีอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์รวมกว่า 100,000 ระบบ จากพื้นที่ 11 รัฐและเขตการปกครองของสหรัฐอเมริกา
ในรัฐอิลินอยส์ มีการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์กว่า 87,000 ระบบ ส่วนรัฐฟลอริดามีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่กว่า 235,000 แผ่น และในอนาคต พื้นที่กว่า 22 รัฐ ในประเทศจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์คิดเป็น 100,000 ระบบ ภายในปี 2030 นี้ โดยจะเริ่มในรัฐโลโลราโด ยูทาห์ แอริโซนา และรัฐนิวเม็กซิโก
ข้อมูลจาก Interesting Engineering
ภาพจาก Bill Mead/Unsplash
ข่าวแนะนำ