TNN สามล้อเปิดประทุนซิ่ง “Leggera” วิ่งตะลุยแรงถึงใจ

TNN

Tech

สามล้อเปิดประทุนซิ่ง “Leggera” วิ่งตะลุยแรงถึงใจ

สามล้อเปิดประทุนซิ่ง “Leggera”  วิ่งตะลุยแรงถึงใจ

เผยโฉม “Leggera” รถสามล้อเปิดประทุนพลังงานไฟฟ้า ยานยนต์อเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับการผจญภัยทั้งบนถนนและออฟโรด

เผยโฉมรถสามล้อไฟฟ้าเปิดประทุน ที่ออกแบบให้สามารถใช้วิ่งได้ทั้งบนถนนเรียบ ๆ ในเมือง หรือใช้วิ่งแบบออฟโรดขับขี่ผจญภัยแบบสมบุกสมบัน โดยเป็นผลงานจากบริษัทยานยนต์ไฟฟ้า แอฟเวเนียร์ (Avvenire) ภายใต้ชื่อ เลกเกร่า (Leggera) ออกแบบมาเพื่อเอาใจขาซิ่งโดยเฉพาะ


สามล้อเปิดประทุนซิ่ง “Leggera”  วิ่งตะลุยแรงถึงใจ ภาพจาก Avvenire

 

รถสามล้อไฟฟ้าเปิดประทุนในกลุ่มนี้ จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่นสปอร์ต (Sport), รุ่นดีลักซ์ (Deluxe), และ รุ่นอัลติเมต (Ultimate) ซึ่งแต่ละรุ่นจะได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับความชื่นชอบในการขับขี่ และมีราคาค่าตัวที่แตกต่างกันออกไป


สำหรับรุ่นเริ่มต้น หรือรุ่นสปอร์ต (Sport) จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมมอเตอร์ขนาด 4 กิโลวัตต์ ทำความเร็วสูงสุดที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.2 วินาที ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดที่ 105 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 11,995 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 430,000 บาท 


ส่วนใครที่อยากได้พละกำลังรถเพิ่มขึ้นมาหน่อย ก็สามารถขยับขึ้นมาเป็นรุ่นดีลักซ์ (Deluxe) มาพร้อมกับมอเตอร์ขนาด 4 กิโลวัตต์สองตัว ให้ความเร็วสูงสุดที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 2.3 วินาที และให้ระยะทางวิ่งสูงสุดที่ 145 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรุ่นนี้ยังมีล้อยางเสริมให้เปลี่ยนสำหรับใช้ขับขี่แบบออฟโรดได้ ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20,999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 730,000 บาท


สามล้อเปิดประทุนซิ่ง “Leggera”  วิ่งตะลุยแรงถึงใจ ภาพจาก Avvenire

 

และสุดท้ายคือรุ่นที่ยกระดับประสิทธิภาพการขับขี่ไปอีกขั้น กับรุ่นอัลติเมต (Ultimate) ซึ่งมาพร้อมมอเตอร์ขนาด 5 กิโลวัตต์สองตัว ทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 1.7 วินาที ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 205 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมีล้อยางเสริมสำหรับใช้งานแบบออฟโรดเช่นกัน ราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 34,995 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,200,000 บาท


โดยปัจจุบันบริษัทเริ่มเปิดรับคำสั่งซื้อแล้วผ่านทางเว็บไซต์ และมีแผนที่จะส่งมอบให้กับผู้สั่งซื้อภายในเดือนพฤษภาคมปี 2024 ซึ่งก็เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงคนที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร


ข้อมูลจาก startupselfieavvenire, newatlas

ข่าวแนะนำ