TNN "ซัมซุง" ตอบแล้ว "Galaxy AI" ฟรีตลอดไป หรือสุดท้ายต้องจ่ายค่าบริการ

TNN

Tech

"ซัมซุง" ตอบแล้ว "Galaxy AI" ฟรีตลอดไป หรือสุดท้ายต้องจ่ายค่าบริการ

ซัมซุง ตอบแล้ว Galaxy AI ฟรีตลอดไป หรือสุดท้ายต้องจ่ายค่าบริการ

ซัมซุงพาสมาร์ตโฟนก้าวเข้าสู่ยุค AI Phone เผยยอดพรีออเดอร์ S24 Series อันดับ 1 ในไทย พร้อมกับชี้แจง Galaxy AI ใช้งานฟรีตลอดไป หรือสุดท้ายต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติม

กรุงเทพ, ประเทศไทย – 2 กุมภาพันธ์ 2023 – ซัมซุง บิ๊กเทคจากประเทศเกาหลีใต้ พาสมาร์ตโฟนเข้าสู่ยุค AI Phone ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI สุดล้ำ กับ ‘Galaxy AI’  ที่ได้นำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนเดิม จนทำให้มียอดการสั่งซื้อ Galaxy S24 Series ล่วงหน้าสูงเป็นประวัติการณ์ โดยสูงกว่า Galaxy S23 Series ถึง 200% 


นายสิทธิโชค นพชินบุตร  รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ กล่าวถึงความสำเร็จของการเปิดตัว Galaxy S24 Series ในเมืองไทย “ซัมซุงได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในตลาดโทรศัพท์มือถือด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมและการตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้บริโภคด้วยยอดการสั่งจองล่วงหน้ากว่า 200% เมื่อเทียบกับรุ่น Galaxy S23 Series และสูงสุดเป็นเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซึ่ง 1 ใน 4 ของยอดพรีออเดอร์นั้นมาจากแบรนด์คู่แข่ง”


ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยซัมซุงได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series เพื่อมอบประสบการณ์ AI จาก Galaxy AI ซัมซุงได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งประกอบไปด้วยชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน ทั้งยังยกระดับระบบจัดการความร้อนด้วย Vapor Chamber อีกทั้งยังผสานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย AI สำหรับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พร้อมประสบการณ์การใช้งานกล้องสุดอัจฉริยะด้วย ProVisual Engine ที่จะช่วยยกระดับการบันทึกภาพและมาช่วยเสริมความสร้างสรรค์ถึงขีดสุดในทุกขั้นตอน รวมไปถึงการเสริมพลังด้วย AI ที่ดีที่สุด


ซัมซุงได้ทำงานร่วมกับผู้นำทางด้าน AI อย่าง Google และ Microsoft โดยใช้ AI มาพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆ เช่น Circle to Search ที่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่ต้องสลับแอปพลิเคชันซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Galaxy S24 Series นอกจากนี้ยังซัมซุงยังทำงานร่วมกับ LLM โซลูชั่นที่มอบประสบการณ์การใช้ AI ด้วยฟีเจอร์หลัก เช่น Live Translate,Voice Recorder, Samsung Notes และอื่นๆ โดย LLM จะเปิดให้มีประสบการณ์ AI มากยิ่งขึ้นบน Galaxy S24 Series 


นอกจากนี้ซัมซุงยังได้พัฒนาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Galaxy S24 Series ทั้งการตั้งค่าขั้นสูงด้วย AI ช่วยให้ผู้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลของ AI แบบเต็มรูปแบบได้จากทางออนไลน์ แดชบอร์ดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยซัมซุงได้พัฒนาแดชบอร์ดนี้เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายว่าแอปใดกำลังเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง ข้อมูล หรือกล้อง จากนั้นสามารถปิดการอนุญาตได้เองทันทีเพียงคลิกเดียว ไปจนถึงการใส่ลายน้ำ Metadata โดยนวัตกรรมนี้รับประกันว่าผู้ใช้สามารถแชร์รูปภาพได้อย่างปลอดภัยไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว มากไปกว่านั้น Galaxy S24 Series ยังได้รับการป้องกันด้วย Samsung Knox Metrix ซึ่งให้การเข้ารหัสและเชื่อมต่อคลาวด์อย่างปลอดภัย รวมถึง Knox Vault, Auto Blocker, Secure Wi-Fi, Private Share เพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


"ซัมซุงซีเรียสมากในเรื่องของความเป็นส่วนตัว โดยให้ security 7 ปี อัปเดตซอฟต์แวร์ 7 ปี ซึ่งสูงที่สุดในตลาด และโดยเฉพาะ Auto Blocker ที่ตอนนี้ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มีการเอาไปทดสอบ ปรากฏว่าทางตำรวจ happy มาก บอกว่า มันบล็อกได้เกือบ 100%" นายสิทธิโชค กล่าวเสริมในเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว 


ส่วนอีกเรื่องที่เป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยคือเรื่องการจ่ายเงินในอนาคตเพื่อใช้งานคุณสมบัติ Galaxy AI ซึ่งในเว็บไซต์ของซัมซุงมีชี้แจงไว้ว่า คุณสมบัติกาแล็กซี่ AI จะเปิดให้ใช้งานจนถึงปี 2025 แล้วหลังจากนั้นจะมีแนวทางอย่างไรต่อ นายสิทธิโชคก็ชี้แจงว่า Engines ของซัมซุง S24 มีทั้งส่วนที่เป็นของซัมซุงเองและของพาร์ทเนอร์ ดังนั้นจึงมีเงื่อนไขการใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังให้คำตอบในตอนนี้ไม่ได้ว่าหลังจากปี 2025 จะเป็นอย่างไร เพราะต้องขึ้นอยู่กับพาร์ทเนอร์ด้วย แต่ยืนยันว่าซัมซุงประเทศไทยจะพยายามหลีกเลี่ยงการเก็บเงินในการใช้บริการคุณสมบัติ Galaxy AI อย่างถึงที่สุด


ส่วนในเรื่องที่ว่าคุณสมบัติ Galaxy AI จะสามารถใช้ในเครื่องของซัมซุงรุ่นอื่น ๆ ที่เปิดตัวมาก่อนหรือไม่ นายสิทธิโชค ย้ำว่าจะสามารถใช้ได้ แต่เนื่องจาก AI มีทั้งที่อยู่ในคลาวน์และที่อยู่ในเครื่อง ดังนั้นก็อาจจะไม่สามารถใช้ Galxy AI ได้ทุกรุ่น เนื่องจากสเปคของตัวเครื่องอาจจะไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเท่าไหร่นัก พร้อมเผยว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว 


นายสิทธิโชค นพชินบุตรกล่าวถึงความสำเร็จของการเปิดตัว Galaxy S24 Series ในเมืองไทย “ซัมซุงได้สร้างปรากฎการณ์ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในตลาดโทรศัพท์มือถือด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมและการตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้บริโภคด้วยยอดการสั่งจองล่วงหน้ากว่า 200% เมื่อเทียบกับรุ่น Galaxy S23 Series และสูงสุดเป็นเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซึ่ง 1 ใน 4 ของยอดพรีออเดอร์นั้นมาจากแบรนด์คู่แข่ง” 


สำหรับภาพรวมในด้าน AI ทั่วโลก ก็มีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากโดยมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลกรวมถึงในประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่า Generative AI ทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 และในปัจจุบัน Chat GPT มีผู้ใช้มากกว่า 180.5 ล้านคน  โดยขนาดตลาด Generative AI ของประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตรายปีที่ 23.46% ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2030 โดยมากกว่า 1 ใน 3 หรือ 35% ของผู้บริโภคในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งใช้กับชีวิตส่วนตัวและใช้เกี่ยวกับการทำงาน 


ส่วนเทรนด์หลักของ AI ในปี 2024 ที่น่าสนใจ แบ่งเป็น 5 เทรนด์มีดังนี้


เทรนด์ที่ 1: Generative AI เป็นการใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้หลากหลาย ตั้งแต่ข้อความไปจนถึงดนตรี มีแนวโน้มว่าปี 2026 องค์กรต่างๆ มากกว่า 80% จะนำ Generative AI ในการดำเนินงานซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่น้อยกว่า 5% ในปัจจุบัน 

เทรนด์ที่ 2: BYOAI (Bring Your Own AI) หรือ Shadow AI เป็นแนวโน้มใหม่ในที่ทำงานโดยพนักงานนำ AI ของตนเองเข้ามาใช้ในการทำงาน เกิดจากเครื่องมือ AI ที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง โดยผลการรายงานจาก Forrester ระบุว่า ‘60% ของพนักงานจะใช้ AI มาช่วยทำงานในด้านต่างๆ มากขึ้น’ 

เทรนด์ที่ 3: แอปพลิเคชั่นอัจฉริยะด้วย AI เฉพาะบุคคล ในปี 2026 1 ใน 3 ของแอปพลิเคชั่นทั้งหมดจะใช้ AI เพื่อสร้างอินเตอร์เฟชให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้ 

เทรนด์ที่ 4: AI สำหรับการเขียนโค้ด งานบางอย่างถูกโยนไปให้ AI แก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือการเขียนโปรแกรม โดย Gartner ระบุว่า ‘ภายในปี 2028 บริษัทซอฟแวร์จะใช้ AI มาช่วยในการเขียนโค้ดจาก 3 ใน 4 ของบริษัททั้งหมด ซึ่งในปี 2023 พบว่ามีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น’ 

เทรนด์ที่ 5: การค้นหาออนไลน์ด้วย AI ซึ่ง AI ปรับปรุงการค้นหาออนไลน์โดยให้ตรงกับความชอบของผู้ใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น หรือการค้นหาแบบสนทนาเพื่อให้การตอบโต้กับเครื่องมือการค้นหาได้อย่างธรรมชาติและรวมไปถึงการค้นหาด้วยภาพหรือวิดีโอ


ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : หมายข่าวประชาสัมพันธ์จากซัมซุง

ข่าวแนะนำ