นักสำรวจลุ้น ! โซนาร์พบวัตถุต้องสงสัย อาจเป็นเครื่องบินที่หายไปของ “Amelia Earhart”

ปริศนาการหายตัวไปอย่างลึกลับ ของนักบินหญิงชาวอเมริกัน “อะมิเลีย แอร์ฮาร์ต” (Amelia Earhart) ที่ได้หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 1937 อาจใกล้ถึงวันคลี่คลาย เมื่อทีมนักสำรวจใต้ทะเลลึกจากสหรัฐอเมริกา เผยว่าพวกเขาพบภาพของวัตถุต้องสงสัยใต้ทะเล ที่เชื่อว่าอาจเป็นซากเครื่องบินที่สูญหาย โดยเตรียมกลับไปสำรวจเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างดังกล่าว

ทีมสำรวจจากบริษัท ดีพ ซี วิชั่น (Deep Sea Vision) นำโดย โทนี่ โรมิโอ (Tony Romeo) อดีตนักบินและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกองทัพอากาศ และซีอีโอผู้ก่อตั้งบริษัท ได้เผยภาพโซนาร์ (sonar) หรือภาพที่สร้างขึ้นโดยใช้คลื่นเสียง ของวัตถุต้องสงสัย ที่เชื่อว่าเป็นโครงสร้างของเครื่องบิน ล็อคฮีด อิเล็กตรา (Lockheed Electra) ซึ่งเป็นเครื่องบินที่สูญหายไปพร้อมกับ อะมิเลีย แอร์ฮาร์ต ระหว่างที่เธอพยายามบินรอบโลกในเดือนกรกฎาคม ปี 1937 

ก่อนหน้านี้ ทีมงานซึ่งประกอบไปด้วยนักโบราณคดีใต้น้ำและผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ทางทะเล ได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่ตามเส้นทางที่เชื่อว่าเป็นเส้นทางการบินของแอร์ฮาร์ต ใกล้กับเกาะฮาวแลนด์ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง ซึ่งเป็นจุดที่แอร์ฮาร์ตควรจะหยุดเติมเชื้อเพลิง ก่อนที่เธอจะหายไป

โดยทีมสำรวจได้ใช้เรือดำน้ำ สำรวจพื้นที่ประมาณ 5,200 ตารางไมล์ หรือราว 13,500 ตารางกิโลเมตร ในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเวลาสามเดือนด้วยกัน พร้อมกับการใช้เทคโนโลยีโซนาร์ มาช่วยในการค้นหา

จนกระทั่งพวกเขาได้ภาพโซนาร์ของวัตถุต้องสงสัย บริเวณพื้นมหาสมุทรที่ความลึกระดับ 5,000 เมตร และพบอยู่ห่างจากเกาะฮาวแลนด์ ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 160 กิโลเมตร โดยที่ตัววัตถุต้องสงสัยนี้ มีรูปร่างและขนาดที่ใกล้เคียงกับเครื่องบินของแอร์ฮาร์ตที่สูญหายไป 

ทีมงานหวังว่าจะได้กลับไปยังจุดที่ทำการสำรวจอีกครั้งภายในปลายปีนี้ เพื่อยานพาหนะควบคุมระยะไกลลงสำรวจในน้ำลึก เพื่อให้ได้ภาพที่ดีขึ้น และอาจจะนำไปสู่การกู้ซากต้องสงสัยขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อนำมาศึกษาต่อว่าซากนี้เป็นซากของอะไรกันแน่ แต่กระบวนการดังกล่าว อาจต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี

สำหรับ อะมิเลีย แอร์ฮาร์ต (Amelia Earhart) เป็นนักบินหญิงชาวอเมริกัน ผู้สร้างประวัติศาสตร์ในการบินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้สำเร็จ ซึ่งได้หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ปีค.ศ. 1937 บริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก ในระหว่างการพยายามเดินทางรอบโลก 

ดังนั้นถ้าหากว่าวัตถุที่อยู่บนพื้นมหาสมุทร คือซากเครื่องบินของเธอจริง ๆ ทีมค้นหาก็หวังว่ามันจะเป็นการปิดฉากของตำนานนักบินหญิงผู้สูญหาย ซึ่งวาระสุดท้ายของเธอ ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้

ข้อมูลจาก reutersconnect, interestingengineering, silpa-mag