TNN 20 อันดับแอปไทย ยอดดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่ App Store และ Play Store เปิดใช้งาน

TNN

Tech

20 อันดับแอปไทย ยอดดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่ App Store และ Play Store เปิดใช้งาน

20 อันดับแอปไทย ยอดดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่ App Store และ Play Store เปิดใช้งาน

เผย 20 อันดับแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยองค์กรไทยที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่ App Store และ Play Store เปิดให้ใช้งาน พบ TrueMonet โดย ทรู คอร์ปอเรชัน ครองแชมป์

เผยผลการจัดอันดับข้อมูลท็อป 20 แอปที่พัฒนาโดยองค์กรไทยที่มีการดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่เปิด App Store และ Play Store จนถึงปัจจุบัน 


20 อันดับแอปไทย ยอดดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่ App Store และ Play Store เปิดใช้งาน


แอปบริการทางการเงินครองแชมป์

จากรายชื่อแอปพลิเคชันมือถือที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุด 20 อันดับของไทย พบว่ามีแอปพลิเคชันในภาคบริการทางการเงินถึง 9 แอปจากธนาคาร 7 แห่ง โดยมี 2 แอปที่ให้บริการโดยหน่วยงานที่ไม่ใช่ธนาคาร

 

แม้แอปพลิเคชันส่วนใหญ่ในหมวดนี้จะเป็นแอปที่ให้บริการโดยธนาคารพาณิชย์ แต่เป็นที่น่าสนใจว่าแอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุด คือแอป TrueMoney ให้บริการโดย ทรู คอร์ปอเรชัน ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากฟินเทคและโซลูชันทางการเงินแบบฝังตัว (embedded finance solutions) ที่ช่วยทั้งขยายขีดความสามารถ และยกระดับบริการของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร 

 

TrueMoney (ชื่อเดิม Wallet by TrueMoney) เปิดตัวในปี 2556 ในฐานะผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล ปัจจุบันได้พัฒนาต่อยอด ให้เป็นแอปพลิเคชันอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวัน มีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่นอกเหนือไปจากการชำระเงินแบบเดิม ทั้งบริการชำระเงินค่าสาธารณูปโภค การเติมเงินโทรศัพท์มือถือ การออมและการลงทุน รวมถึงการโอนเงินแบบ peer-to-peer นอกจากนี้แล้วแอป TrueMoney ยังมีแคมเปญที่ช่วยดึงดูดและรักษาความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน ให้สามารถสะสมคะแนนเพื่อใช้แลกเป็นส่วนลดและของรางวัลต่าง ๆ ได้ด้วย

 

นอกจากนี้แล้วในกลุ่มแอปที่มีการดาวน์โหลดสูงสุด 5 อันดับแรก ยังประกอบไปด้วยแอปจากธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทย ได้แก่ K PLUS จากธนาคารกสิกรไทย Krungthai NEXT จากธนาคารกรุงไทย และ SCB EASY จากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ยังคงรั้งตำแหน่ง 5 อันดับแรกอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แอปพลิเคชันเหล่านี้ได้แตกบริการใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากบริการหลัก เช่น ประกัน สินเชื่อ และโปรแกรมสะสมแต้ม

 

การพัฒนาและปรับตัวของแอปพลิเคชันเหล่านี้ เป็นการยืนยันว่า การที่แอปพลิเคชันจะครองใจผู้ใช้งานและประสบความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่องนั้นจะต้องมีการปรับจากแอปที่ให้บริการผลิตภัณฑ์หลักเพียงอย่างเดียว สู่การให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน เอาผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและมีคุณค่าอย่างแท้จริง

 

บริการฟู้ดเดลิเวอรีและร้านสะดวกซื้อครองตำแหน่งสูงถึง 2 ตำแหน่ง

ในส่วนของบริการฟู้ดเดลิเวอรี ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ มีถึง 2 แอปดังที่อยู่ในลำดับต้น ๆ ของการจัดอันดับ ที่น่าจับตามองคือ 7-Eleven เติบโตแบบก้าวกระโดดโดยครองอันดับที่ 5 ของรายการ เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 15 เมื่อ 5 ปีที่แล้ว


ภาพรวมของวงการฟู้ดเดลิเวอรีในไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้เล่นรายใหญ่ ๆ ในตลาดได้ปรับกลยุทธ์จากการเป็นเพียงสื่อกลางที่ช่วยเชื่อมผู้บริโภคกับร้านอาหารหากัน ไปสู่บริการที่เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการร้านอาหาร และในฝั่งของผู้บริโภคด้วย เร็ว ๆ นี้ ยังพบว่ามีการจับมือกันของผู้ให้บริการข้ามแพลตฟอร์มมากขึ้น เพื่อสร้างโซลูชันใหม่ ๆ ที่ผนวกเอาเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาปรับใช้ในวงการร้านอาหาร ผสานประสบการณ์ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างลงตัว 

 

แอปหมวดความบันเทิงและบริการสื่อผ่านอินเทอร์เน็ต (Over-the-top หรือ OTT) ครองใจผู้ใช้

ในหมวดความบันเทิงและสตรีมมิ่ง OTT มีแอปพลิเคชันติดอันดับท็อป 20 ถึง 6 แอป ทั้ง TRUE ID, AIS Play, Ch7HD, Major Cineplex, BUGABOO.TV และ CH3 Plus โดยมีแอปพลิเคชันที่ให้บริการโดยสถานีโทรทัศน์ถึง 3 แอป โดยแอป Ch7HD และ BUGABOO.TV นั้นเป็นของช่อง 7 ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้ชมในปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่

 

แม้บริการสตรีมวิดีโอแบบออนดีมานด์ (on-demand video streaming) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่าแอปพลิเคชัน Major Cineplex ยังคงติดอันดับท็อป 20  แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีการสตรีมบนมือถือและหน้าจอทีวีเป็นจำนวนมาก แต่โรงภาพยนตร์ยังคงเป็นสถานที่ที่ผู้บริโภคชาวไทยไปสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่สามารถทดแทนได้ที่บ้าน

 

ค่ายมือถือชั้นนำติดอันดับทั้งหมด

ผู้ให้บริการมือถือทั้ง 3 ราย คือ ทรู เอไอเอส และดีแทค ก็ติดอันดับเช่นกัน ในอดีตผู้ใช้บริการมักติดภาพแอปพลิเคชันเหล่านี้ว่าเป็นบริการสาธารณูปโภคทั่วไป แต่ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้ให้บริการได้พัฒนาแอปให้มีฟังก์ชันที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ได้ใช้เพื่อชำระค่าบริการเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มีทั้งสื่อบันเทิงและโปรโมชันสะสมแต้มที่ช่วยดึงดูดผู้ใช้งาน และช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างลูกค้าและแบรนด์

 

สถิติท็อปดาวน์โหลดเป็นข้อมูลรวบรวมจาก App Store ระหว่างเดือน กรกฎาคม 2551 - ธันวาคม 2566 และ Play Store ในช่วงเดือนมีนาคม 2555 - ธันวาคม 2566 โดยบริษัทแอ๊พซินท์ (Appsynth) หนึ่งในที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและผู้เชี่ยวชาญด้านแอปบนสมาร์ตโฟนของไทย ร่วมกับ data.ai แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลมือถือ 


App Store เปิดตัวในปี 2551 ด้วยแอปพลิเคชันบนสโตร์ 500 แอปพลิเคชัน ล่าสุดในปี 2566 มีแอปบนสโตร์มากกว่า 1.96 ล้านแอปพลิเคชัน ส่วนแอนดรอยด์มีแอปพลิเคชัน 3.7 ล้านแอปบน Google Play ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าผู้ใช้งานมากถึง 25% ตัดสินใจเลิกใช้งานแอปหลังจากการใช้งานครั้งแรก แบรนด์ต่าง ๆ ที่กำลังคิดจะสร้างแอป หรือวางแผนอนาคตสำหรับแอปขององค์กร จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติเด่น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้งานเกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง 


ที่มาข้อมูล Appsynth

ข่าวแนะนำ