Volvo ยอดพุ่งสูงสุดในไทยในรอบ 27 ปี โดย 3 ใน 5 เป็นรถ EV
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จ ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นในปี 2023 โดย 56% ของยอดขายรถวอลโว่ เป็นรถไฟฟ้า BEV และเผยเตรียมเปิดศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่แห่งที่ 4 ของโลกในไทยด้วย
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จด้วยยอดขายรถในประเทศภายในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 โดยการเติบโตดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนจากยอดขายรถไฟฟ้าล้วน (Pure Electric) ที่ร้อยละ 56 จากยอดขายทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นตัวเลขมากกว่า 4,000 คัน สูงที่สุดนับตั้งแต่ยอดขายในปี 1996 นอกจากนี้บริษัท ยังได้ประกาศแผนกลยุทธ์เพื่อสานต่อเป้าหมายในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และเพื่อเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบในประเทศไทยภายในปี 2025
ยอดขาย Volvo ในไทยโตสุดในรอบ 27 ปี
วอลโว่เปิดเผยว่า จากยอดขายรถพลังงานไฟฟ้า BEV กว่าร้อยละ 56 มาจากรถไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมอย่าง Volvo XC40 Recharge Pure Electric นอกจากนี้ รถไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปในปีที่ผ่านมาอย่าง Volvo EX30 ก็ได้รับกระแสความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถไฟฟ้าของวอลโว่ในปี 2024 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการเติบโตในทิศทางการจำหน่ายเพียงรถไฟฟ้าเท่านั้นภายในปี 2025
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์รถ Plug-in Hybrid (PHEV) ของวอลโว่นั้นยังคงได้รับความนิยม โดยมีสัดส่วนยอดขายคิดเป็นร้อยละ 44 จากยอดขายทั้งหมด นำโดย Volvo XC60 Recharge Plug-in Hybrid เป็นรุ่นที่มียอดขายสูงสุดในผลิตภัณฑ์กลุ่มเดียวกัน
คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 3 ปีติดต่อกัน ตอกย้ำให้เห็นว่าเราเดินทางมาในทิศทางที่ถูกต้อง ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากการมีเป้าหมายและเจตนารมณ์ที่ชัดเจน ปี 2024 ถือเป็นอีกปีที่สำคัญของ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ที่จะสานต่อจุดยืนในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นยานยนต์ไฟฟ้า”
Volvo เตรียมยกระดับการให้บริการลูกค้าและเปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่
ในช่วงตอบคำถามสื่อมวลชน ทางวอลโว่ ประเทศไทยได้เปิดเผยว่ายอดขายในปี 2023 คิดเป็นมากกว่า 4,000 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1996 หรือคิดเป็นในรอบ 27 ปี และยังเปิดเผยว่ามีการวางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Centre แห่งที่ 3 ในปีนี้ รวมถึงเริ่มให้บริการซ่อมและบำรุงรักษารถไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ หรือโมบาย เซอร์วิสทั่วประเทศภายในปีนี้ พร้อมเผยด้วยว่ามีแผนการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าใหม่ภายในครึ่งหลังของปี 2024 นี้เช่นกัน
โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของวอลโว่ จะมาพร้อมสถาปัตยกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยีประมวลผล คอร์ คอมพิวติง (core computing) เจนเนเรชันล่าสุด และติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยแห่งให้แก่ผู้ใช้รถ โดยรถไฟฟ้ารุ่นที่จะเปิดตัวในปีนี้ จะเข้ามาเสริมทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้าระดับพรีเมียมของวอลโว่ในปัจจุบันที่มีอยู่แล้วอย่าง Volvo XC40, C40 และ EX30 ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
Volvo เตรียมเปิดศูนย์ซ่อมแบตรถ EV แห่งแรกในไทยและแห่งที่ 4 ของโลก
นอกจากนี้ วอลโว่ยังมีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ในประเทศไทย โดยเริ่มต้นด้วยโครงการรีไซเคิลแบตเตอรี่ผ่านความร่วมมือกับ TES ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีที่ยั่งยืนจากประเทศสิงคโปร์ โดยโครงการเหล่านี้ไม่เพียงมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืน แต่ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการเป็นเจ้าของ (total cost of ownership) รถไฟฟ้าและรถ Plug-in Hybrid ของวอลโว่ เมื่อเทียบกับตลาดรถ EV ในปัจจุบันที่ต้องเปลี่ยนโมดูลแบตเตอรี่เท่านั้นเมื่อเกิดความเสียหาย
โดยแผนการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมทางสภาพอากาศ บริษัทฯ ได้ประกาศว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (C02) โดยเฉลี่ยร้อยละ 70 ต่อคัน ภายในปี 2025 ซึ่งได้เริ่มโครงการติดตั้งหลังคาโซลาร์ ณ คลังสินค้า Volvo Car Thailand Central Distribution & Training Center ที่เขตบางนา ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่สำหรับเก็บชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ รวมถึงเป็นศูนย์บริการตรวจเช็กรถด้วย ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2024 พื้นที่กว่า 23,331 ตารางเมตร ของคลังเก็บสินค้าแห่งนี้จะสามารถปฏิบัติการณ์ได้ด้วยพลังงานจากแหล่งไฟฟ้าหมุนเวียนแบบ 100%
ที่มาข้อมูล Volvo Car Thailand
ข่าวแนะนำ