การเดินทางย้อนเวลาเป็นหนึ่งในหัวข้อทางวิทยาศาสตร์และความบันเทิงที่ถูกพูดถึงนับร้อยปี ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เชื่อว่าเป็นไปได้จริงแต่เทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่พร้อม และฝ่ายที่ไม่เชื่อว่าเป็นไปได้ และกลุ่มนักฟิสิกส์ในฟินแลนด์ก็ได้ตีพิมพ์หลักการที่ออกมาสนับสนุนว่าการเดินทางข้ามเวลาเป็นไปไม่ได้ ด้วยการสมมติหลักการที่ขัดกับความเข้าใจทางฟิสิกส์ในปัจจุบัน

วิธีการพิสูจน์ว่าการเดินทางย้อนเวลาเป็นไปไม่ได้

กลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแทมปาเร (Tampere University) ได้นำเสนองานวิจัยใหม่ในเชิงถ้าหาก (What If) โดยเปลี่ยนมุมมองต่อความเข้าใจเกี่ยวกับความเร็วแสงเพื่อพิสูจน์ว่าการเดินทางข้ามเวลาไม่สามารถเป็นไปได้

ความเร็วแสง (Speed of light: c) ได้รับการพิสูจน์ว่ามีความเร็ว 299,792,458 เมตรต่อวินาที ซึ่งคงที่ในทุกสภาพแวดล้อมและในทุกพื้นที่บนจักรวาล แต่นักวิจัยงานนี้ได้กำหนดให้แสงมีความเร็วเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมและพื้นที่ได้ ก่อนนำไปเข้าสู่สมการเพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของแสง

(สำหรับข้อมูลทางเทคนิค: นักวิจัยใช้สมการของแมกซ์เวลล์ [Maxwell's equations] ในการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของแสงที่จัดเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทหนึ่ง)

คำอธิบายการพิสูจน์ว่าการเดินทางย้อนเวลาเป็นไปไม่ได้

ผลการคำนวณทำให้พบว่า โมเมนตัม (Momentum) หรือค่าทางฟิสิกส์ที่บ่งบอกความพยายามในการเคลื่อนที่ของวัตถุซึ่งสัมพันธ์กับมวลและความเร็วทั้งปริมาณและทิศทางของแสงที่นักวิจัยสมมติให้เปลี่ยนค่าความเร็วได้ ยังคงสภาพเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเรียกว่าแสงอนุรักษ์โมเมนตัม (Conservation of Momentum) 

หรือโดยพื้นฐานแล้วหมายความว่า ไม่ว่าแสงจะเปลี่ยนแปลงความเร็วไปตามสภาพแวดล้อมอย่างไร แต่ทิศทางและความเร็วของแสงจะยังคงสอดคล้องกับทิศทางของการทดลองสมมติอยู่เหมือนเดิม นั่นหมายความว่า เวลาที่เป็นการวัดอิงจากความเร็วแสงจะไม่สามารถเปลี่ยนกระแสทิศทางไปได้ หรือหมายความว่าเวลาไม่สามารถเคลื่อนที่ย้อนกลับไปได้นั่นเอง โดยข้อมูลและรายละเอียดการคำนวณนักวิจัยได้พิมพ์ลงในวารสารวิชาการที่ชื่อว่าออปติกา (Optica) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ซึ่งในอนาคต หากโลกของเรามีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสงและความเร็วนั้นไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ความหวังที่พวกเราจะเดินทางย้อนเวลาไป ก็อาจจะเป็นไปได้

ที่มาข้อมูล Science Alert

ที่มารูปภาพ Unsplash