
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ฟินแลนด์ ครองแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ตามรายงาน World Happiness Report 2025 ซึ่งจัดอันดับโดยพิจารณาจากคุณภาพชีวิตของประชากร จากแบบสำรวจของ Gallup World Poll ในช่วงปี 2565-2567 ซึ่งให้ผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนคุณภาพชีวิตของตนเองบน "บันไดแคนทริล" (Cantril Ladder) โดยให้คะแนนตั้งแต่ 0 (แย่ที่สุด) ไปจนถึง 10 (ดีที่สุด)
นอกจากนี้ รายงานยังพิจารณาปัจจัยหลัก 6 ข้อในการจัดอันดับประเทศกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ได้แก่
GDP ต่อหัว
การสนับสนุนทางสังคม
อายุขัยที่แข็งแรง
เสรีภาพในการตัดสินใจในชีวิต
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ระดับการคอร์รัปชันที่ต่ำ
Ilana Ron Levey กรรมการผู้จัดการจาก Gallup อธิบายว่า ฟินแลนด์ เป็นกรณีพิเศษที่น่าสนใจ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ประชากรของประเทศมีความสุขมากกว่าประเทศอื่น ๆ เช่น ความเชื่อมั่นต่อผู้อื่น ความไว้วางใจในสถาบันของรัฐ ความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนฝูง และความรู้สึกมั่นคงและเท่าเทียมกันในสังคม
"ในฟินแลนด์ ความเหลื่อมล้ำด้านความเป็นอยู่ต่ำกว่าประเทศอย่างสหรัฐ คนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของตนเอง" Ilana Ron Levey กล่าว พร้อมเสริมว่า การทำความดี หรือการช่วยเหลือผู้อื่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสุขให้กับผู้ให้ ไม่ใช่แค่ผู้รับ
ขณะที่ประเทศแถบนอร์ดิก เช่น เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ยังคงติดอันดับ 10 อันดับแรก ด้านสหรัฐอเมริกาไม่ติด 10 อันดับแรกของประเทศที่มีความสุขที่สุด และอันดับยังลดลงจากอันดับที่ 23 ในปีก่อน มาอยู่ที่ อันดับ 24 ในปีนี้

สรุปข่าว
Ilana Ron Levey อธิบายว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สหรัฐตกอันดับ คือ คนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปี รู้สึกแย่กับชีวิตมากขึ้นกว่าที่เคย พวกเขารู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัวน้อยลง มีเสรีภาพในการเลือกทางเดินชีวิตลดลง และไม่ค่อยมั่นใจในมาตรฐานการดำรงชีวิตของตนเอง ข้อมูลจากรายงานยังระบุว่าชาวอเมริกันใช้เวลารับประทานอาหารตามลำพังเพิ่มขึ้น โดยในปี 2566 พบว่า 1 ใน 4 ของชาวอเมริกัน กินอาหารคนเดียวทุกมื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 53% ตั้งแต่ปี 2546 โดยเสริมว่า "แม้ว่าการกินข้าวด้วยกันจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่รายงานพบว่าผู้ที่กินข้าวกับผู้อื่นบ่อย ๆ มักจะมีความสุขมากกว่า"
ทั้งนี้ 10 อันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 2025
1. ฟินแลนด์
2. เดนมาร์ก
3. ไอซ์แลนด์
4. สวีเดน
5. เนเธอร์แลนด์
6. คอสตาริกา
7. นอร์เวย์
8. อิสราเอล
9. ลักเซมเบิร์ก
10. เม็กซิโก
ขณะที่เดนมาร์ก ซึ่งครองอันดับ 2 ในปีนี้ ติดอันดับท็อป 10 มาเป็นเวลากว่าทศวรรษ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนมีความสุข เช่น ระบบสวัสดิการที่มั่นคง และความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่ง แม้จะมีอัตราภาษีที่สูงที่สุดในโลก โดยประชาชนจ่ายภาษีมากถึง 50% ของรายได้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาคือ ระบบสาธารณสุขฟรี เงินสนับสนุนด้านการศึกษาสำหรับนักเรียน เงินบำนาญสำหรับผู้สูงอายุ และการสนับสนุนด้านบริการดูแลเด็ก
จากรายงานของ OECD Better Life Index เดนมาร์กมีคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยในหลายด้าน เช่น งาน การศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ทางสังคม การมีส่วนร่วมทางพลเมือง และความพึงพอใจในชีวิต
รอน เลวี สรุปว่า ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับรายได้เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความไว้วางใจในสังคม ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และการมองโลกในแง่ดี
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าว CNBC
ที่มารูปภาพ : TNN