มือเทียมเชื่อมต่อระบบประสาทโดยตรงชิ้นแรกของโลก ใช้งานได้เหมือนจริง 80%

มนุษย์เราเข้าใกล้โลกแห่งอนาคตที่สามารถใช้อวัยวะเทียมได้แทนอวัยวะจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว อย่างเช่นมือเทียมที่ชื่อว่ามิอา แฮนด์ (Mia Hand) ชิ้นนี้ มันคืออุปกรณ์ไบโอนิคทางการแพทย์ชิ้นแรกที่สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบประสาทและโครงกระดูกของมนุษย์ รวมถึงใช้การทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) จนสามารถนำมาใช้แทนอวัยวะที่ขาดไปได้เหมือนจริงเกือบ 80% เลยทีเดียว

มิอา แฮนด์ พัฒนาโดยสถาบันไบโอนิคแห่งออสเตรเลีย นำโดยศาสตราจารย์ แม็กซ์ ออร์ติซ-คาตาลัน (Max Ortiz-Catalan) หัวหน้าฝ่ายวิจัยประสาทเทียม พวกเขาได้ให้หญิงที่เสียมือไปจากอุบัติเหตุ ชื่อ คาริน (Karin) สวมใส่มือเทียมนี้ ผลลัพธ์พบว่ามือเทียมสามารถใช้งานได้ดีแทบไม่ต่างจากมือจริง ๆ เลย และมันยังใช้ต่อเนื่องได้นานถึง 3 ปี

ภาพจาก Santannapisa

ในทางการแพทย์ อุปสรรคสำคัญ 2 ข้อใหญ่ ๆ ในเรื่องการใส่อวัยวะเทียมคือไม่สามารถเชื่อมต่ออวัยวะเทียมกับแขนขาจริงได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงไม่สามารถควบคุมอวัยวะเทียมนั้นได้ตามต้องการ ซึ่งในการวิจัยครั้งนี้ ทีมวิจัยได้พัฒนาส่วนต่อประสานระหว่างชิ้นส่วนมนุษย์กับชิ้นส่วนเทียมขึ้นมา เพื่อให้สามารถยึดโครงสร้างเทียมเข้ากับกระดูกจริงได้ เรียกว่า การรวมตัวของกระดูก หรือออสซีโออินเตอเกรชั่น (Osseointegration) จากนั้นติดอิเล็กโทรดลงในเส้นประสาทและกล้ามเนื้อเพื่อให้เจาะเข้าไปในระบบประสาทได้ ขั้นตอนการรวมตัวของกระดูกถือว่ายุ่งยากและซับซ้อนมาก เพราะต้องกำหนดตัวแปรหลายอย่าง ทั้งรัศมีการหมุนของกระดูกข้อต่อ ท่อนกระดูกต้องอยู่ในแนวเดียวกันและรับน้ำหนักเท่ากัน และตัวแปรอื่น ๆ 

ภาพจาก Santannapisa

นอกจากสามารถใช้งานได้ดี มือเทียมนี้ยังลดความเจ็บปวดได้ด้วย ซึ่งก็ต้องบอกว่าในปัจจุบัน ผู้พิการหลายคนเลิกใช้แขนขาเทียมเพราะมันทำให้เจ็บมาก สำหรับคาริน เธอบอกว่าแขนขาเทียมแบบเดิมทำให้เธอรู้สึกเหมือนเอามือไปใส่เครื่องบดเนื้อตลอดเวลา จนต้องกินยาแก้ปวด ซึ่งการพัฒนามือเทียมที่สามารถเชื่อมต่อระบบประสาทโดยตรงครั้งนี้ ถือว่ามีความหมายกับเธอมาก เพราะมันทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้น

ทั้งนี้แม้ผู้พัฒนาเทคโนโลยีนี้จะเป็นสถาบันวิจัยในออสเตรเลีย แต่บริษัทผู้ผลิตกลับเป็นบริษัทสัญชาติอิตาลีชื่อบริษัทเพรนซิเลีย (Prensilia) บริษัทให้คำมั่นว่ามิอา แฮนด์จะสามารถใช้งานได้เหมือนมือจริง 80% ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ส่งสัญญาณถึงก้าวสำคัญในการพัฒนาอวัยวะเทียมที่สามารถใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า หากมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งเราอาจมีอวัยวะเทียมที่สามารถใช้แทนอวัยวะจริงได้แบบสมบูรณ์ 100% ก็เป็นไปได้

ที่มาข้อมูล Newatlas, Santannapisa

ที่มารูปภาพ Santannapisa