5 อันดับแล็บท็อปที่ดีที่สุดในปี 2023

เอาใจทั้งสายทำงาน, สายเล่นเกม และสายสตรีมมิ่ง ด้วย 5 อันดับ แล็บท็อปที่ดีที่สุดในปี 2023 ซึ่งได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอบส์ (Forbes) ได้แก่

สายทำงาน

แล็บท็อปที่ดีที่สุดสำหรับสายทำงานถูกยกให้เป็น Asus ZenBook S 13 OLED มาพร้อมซีพียู Intel Core i7, แรม 32 กิกะไบต์ และพื้นที่จัดเก็บ 1 เทระไบต์ ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 13.3 นิ้ว  ให้ความละเอียดภาพ 2,880 x 1,800 และอัตรารีเฟรช 60 เฮิร์ต แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และมีน้ำหนักที่ 0.9 กิโลกรัม มาในราคาประมาณ 48,000 บาท

สายเกมมิ่ง

แล็บท็อปที่ดีที่สุดสำหรับสายเกมมิ่งถูกยกให้เป็น Razer Blade 16 มาพร้อมซีพียู Intel Core i9, แรม 32 กิกะไบต์ และพื้นที่จัดเก็บ 1 เทระไบต์ ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 16 นิ้ว  ให้ความละเอียดภาพ 2,560 x 1,440 และอัตรารีเฟรช 240 เฮิร์ต แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และมีน้ำหนักที่ 2.4 กิโลกรัม มาในราคาประมาณ 120,000 บาท

สายพกพา

แล็บท็อปที่ดีที่สุดสำหรับสายพกพาถูกยกให้เป็น Dell Inspiron 14 มาพร้อมซีพียู Intel Core i7, แรม 16 กิกะไบต์ และพื้นที่จัดเก็บ 1 เทระไบต์ ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว  ให้ความละเอียดภาพ 1,920 x 1,200 และอัตรารีเฟรช 60 เฮิร์ต แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 11 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และมีน้ำหนักที่ 1.5 กิโลกรัม มาในราคาประมาณ 34,000 บาท

สายตัดต่อ

แล็บท็อปที่ดีที่สุดสำหรับสายตัดต่อยกให้เป็น Apple MacBook Pro 16-Inch (M2 Max) มาพร้อมซีพียู Apple M2 Max, แรม 32 กิกะไบต์ และพื้นที่จัดเก็บ 1 เทระไบต์ ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 16.2 นิ้ว  ให้ความละเอียดภาพ 3,456 x 2,234 และอัตรารีเฟรช 60 เฮิร์ต แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 21 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และมีน้ำหนักที่ 2.1 กิโลกรัม มาในราคาประมาณ 120,000 บาท

สาย 2 in 1

แล็บท็อปที่ดีที่สุดสำหรับรูปแบบ 2 in 1 ให้เป็น Lenovo Yoga 9i มาพร้อมซีพียู Intel Core i7, แรม 16 กิกะไบต์ และพื้นที่จัดเก็บ 512 กิกะไบต์ ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว แบบสัมผัสได้ ให้ความละเอียดภาพ 2,880 x 1,800 และอัตรารีเฟรช 60 เฮิร์ต แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 11 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และมีน้ำหนักที่ 1.4 กิโลกรัม มาในราคาประมาณ 49,000 บาท

ที่มาของข้อมูล Forbes.com