10 รถ EV ที่แพงที่สุดในโลก โรลส์-รอยซ์ยังต้องชิดซ้าย !
ทำความรู้จัก 10 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก แม้แต่โรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) ที่ว่าแน่ยังแพ้หลุดรุ่ย !
รถยนต์เป็นยานพาหนะที่มีหลายระดับราคา ตั้งแต่รถทั่วไปในหลักแสนถึงหลักล้านบาท ไปจนถึงหลักสิบล้านขึ้นไปที่มีทั้งรถหรูหรือรถแรงอย่างซูเปอร์คาร์ (Supercar) ไม่เว้นแม้แต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่มีรถในกลุ่มราคาสูงถึงหลักร้อยล้านบาท
10 รถ EV ที่แพงที่สุดในโลก
จากข้อมูลผู้ผลิตรถ EV ทั้งหมดในปัจจุบัน มีอยู่ 10 อันดับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีราคาสูงที่สุดในโลกในปี 2023 นี้
Aspark Owl (แอสพาร์ค อาว) รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 และเริ่มผลิตเพื่อส่งมอบตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา ให้พละกำลังรวม 1,980 แรงม้า จากมอเตอร์ 2 คู่ จำนวนรวม 4 ตัว สามารถทำความเร็วจาก 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 1.9 วินาที เสนอราคาขายที่ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 124 ล้านบาท
Nio EP9 (นีโอ อีพีไนน์) รถ EV จากนีโอ ค่ายรถไฟฟ้าดังแดนมังกร โดยเปิดตัวในรูปแบบการระดมทุนเพื่อผลิตครั้งแรกในปี 2016 และได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันด้วยราคา 3.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 123 ล้านบาท มีมอเตอร์ 4 ตัว ที่แต่ละล้อ ให้พละกำลังรวม 1,341 แรงม้า ทำเวลา 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 2.7 วินาที
Lotus Evija (โลตัส อีวีจา) แม้ว่าจะไม่รถที่แพงที่สุดในการจัดอันดับ แต่ก็เป็นรถที่แรงที่สุดในโลกในปีนี้ ด้วยมอเตอร์ 4 ตัว 2,012 แรงม้า โดยผู้ผลิตเคลมว่าทำความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาไม่เกิน 3 วินาที ด้วยราคาเพียง 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 82 ล้านบาท
Pininfarina Battista (พินินฟารินา แบตทิสตา) รถยนต์จากค่ายออกแบบรถและสถาปัตยกรรมสุดอลังการสัญชาติอิตาลี ที่นอกจากดิไซน์สุดว้าวแล้วยังแรงถึง 1,900 แรงม้า ทำเวลาจาก 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 1.89 วินาที เปิดให้ซื้อในราคา 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 79 ล้านบาท
Rimac Nevera (ริแมก เนเวรา) รถไฟฟ้าสัญชาติโครเอเชีย พละกำลัง 1,900 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 1.82 วินาที โดยทั้งรถคันนี้และพินินฟารินา แบตทิสตา ต่างก็ผลิตขึ้นที่โรงงานเดียวกัน แต่ราคาของริแมก เนวารานั้นถูกกว่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราคารวมประมาณ 74 ล้านบาท
DEUS Vayanne (เดอุส วาเยนน์) รถยนต์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างวิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียร์ริง (Williams Advanced Engineering) จากวงการรถแข่งเอฟวัน (F1) และอิตัลดิไซน์ (Italdesign) บริษัทนักออกแบบรถชื่อดังจากอิตาลี ได้ออกแบบรถที่จะโค่นโลตัส อีวีจาลงและกลายเป็นว่าที่แชมป์รถที่แรงที่สุดในปี 2025 ที่จะถึงนี้ ด้วยพละกำลังถึง 2,250 แรงม้า ที่เคลมว่าจะทำความเร็วแต่เลข 100 ได้ในไม่ถึง 2 วินาที ด้วยราคา 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 71 ล้านบาท
Hispano-Suiza Carmen Boulogne (ฮิสปาโน ซุยซา คาร์เมน บูโลญจน์) รถยนต์พลังงงานไฟฟ้าจากสเปนที่เคยโด่งดังในอดีต กลับมาพร้อมการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า โดยชูจุดเด่นความหรูหราภายใน พละกำลัง 1,114 แรงม้า ทำความเร็วได้ใน 2.7 วินาที โดยมีราคาอยู่ที่ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับ เดอุส วาเยนน์
Drako GTE (ดราโค จีทีอี) แบรนด์ใหม่จากอุตสาหกรรมไอทีในซิลิคอนแวลลี (Silicon Valley) ของสหรัฐอเมริกา นำเสนอรถพลังงานไฟฟ้าในราคา 1.3 ล้านเหรียญ หรือ 46 ล้านบาท ด้วยมอเตอร์พละกำลังรวม 1,200 แรงม้า
Rolls-Royce Spectre (โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์) แม้ว่าแบรนด์รถหรูจากแดนผู้ดีคันนี้มักมีภาพจำความหรูหราและราคาที่สูง แต่สเปกเตอร์ รถ EV รุ่นแรกของค่ายก็ยังเป็นเพียงอันดับที่ 9 ในการจัดอันดับครั้งนี้ด้วยราคา 413,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 14.6 ล้านบาท เท่านั้น โดยมีพละกำลัง 577 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 4.5 วินาที
Cadillac Celestiq (คาดิลแลค เซเลสทีค) รถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับหรูของคาดิลแลคเปิดราคาขายไว้ที่ 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11 ล้านบาท ใช้มอเตอร์ 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า ทำความเร็วแตะเลข 100 ได้ภายใน 4.3 วินาที
อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้อันดับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี 2024 มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ซึ่ง TNN Tech จะเกาะติดและอัปเดตความเปลี่ยนแปลงให้ทันท่วงที
ที่มาข้อมูล Topspeed, City Magazine
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67