5G เป็นเครือข่ายสัญญาณในยุคที่ 5 ซึ่งได้พลิกโฉมการทำงานทั้งระดับผู้บริโภคและอุตสาหกรรมทั่วโลก การทำให้ 5G พร้อมใช้งาน โครงสร้างพื้นฐานถือเป็นส่วนสำคัญ เช่นเดียวกับจีนตอนนี้ เพราะในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีการก่อสร้างสถานี 5G ภาคพื้นดินทั่วประเทศจีนแล้วกว่า 600,000 สถานี 

5G ในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

สำนักข่าวเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ (South China Morning Post) รายงานข้อมูลที่รัฐบาลกลางของจีนเผยแพร่ต่อสาธารณะว่าจีนได้สร้างสถานีเสาสัญญาณ 5G ไปแล้วกว่า 600,000 สถานี นับจากเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างให้ครบ 3 ล้านสถานี ภายในสิ้นปีนี้

ในปัจจุบัน จีนมีสถานี 5G ภาคพื้นดินอยู่ที่ 2.937 ล้านสถานี เชื่อมต่ออุปกรณ์กว่า 676 ล้านชิ้น และมีผู้ใช้งานรวมกว่า 2,000 ล้านคน ทั้งผู้บริโภคทั่วไปที่ใช้กับสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์ที่ต่ออินเทอร์เน็ตได้ ตลอดจนอุปกรณ์สวมใส่และในส่วนระบบเซนเซอร์และหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม 

ซึ่งการเติบโตที่รวดเร็วนั้นเป็นผลมาจากส่วนต่อ (Module) ของ 5G ที่ใช้ในระบบสถานีนั้นมีราคาอยู่ที่ 400 หยวน หรือประมาณ 1,900 บาท ซึ่งนอกจากราคาที่ต่ำลงแล้วยังใช้พลังงานน้อยลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับกล่องส่วนต่อในระบบ 4G 

ศักยภาพที่แท้จริงของ 5G ในมุมมองของจีน

กระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศของจีน (China's Ministry of Industry and Information Technology: MIIT) มองว่า 5G ไม่ได้เข้ามาช่วยพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคมากที่สุด เพราะความเร็วสูงสุดที่ 4G ทำได้ใกล้เคียงกับ 5G ทำให้ผู้บริโภคไม่เห็นถึงความแตกต่างมากนัก ส่งผลให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมบางส่วนตัดสินใจชะลอการลงทุนในโครงสร้างระบบ 5G ออกไป

แต่ทาง MIIT มองว่า ศักยภาพที่แท้จริงของ 5G อยู่ที่ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเวิร์คช็อปดิจิทัล (Digital Workshop) และโรงงานอัจฉริยะที่ได้ 5G เข้ามาช่วยกระบวนการทำงานนั้นทำให้ศักยภาพกำลังการผลิต (Productivity) เพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 เทียบกับการทำงานแบบเดิม โดยมีนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Park) กว่า 1,000 แห่ง ทั่วประเทศจีน ที่ใช้ 5G ในกระบวนการผลิตอยู่ในตอนนี้

ที่มาข้อมูล Interesting Engineering

ที่มารูปภาพ Unsplash/Freepik