TNN ทีมฟอร์มูลา อี โดนปรับอ่วม หลังติดเครื่องสแกนแอบส่องยางรถคู่แข่ง

TNN

Tech

ทีมฟอร์มูลา อี โดนปรับอ่วม หลังติดเครื่องสแกนแอบส่องยางรถคู่แข่ง

ทีมฟอร์มูลา อี โดนปรับอ่วม หลังติดเครื่องสแกนแอบส่องยางรถคู่แข่ง

ทีมแข่งฟอร์มูล่า อี (Formula E) โดนปรับหนัก หลังใช้เครื่องสแกนอาร์เอฟไอดี (RFID scanner) ส่องประเภทยางที่ทีมคู่แข่งใช้

ในปัจจุบันการแข่งขัน ฟอร์มูล่า อี (Formula E) หรือการแข่งขันรถสูตรไฟฟ้า ได้รับความนิยมไม่แพ้การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน (Formula 1: F1) ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง แต่ดูเหมือนว่าในการแข่งขันสนามพอร์ตแลนด์ (Portland) ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเกิดดราม่าเล็ก ๆ ขึ้น เมื่อทีมแข่ง DS Penske (ดีเอส เพนสกี) โดนปรับไปมากกว่า 25,000 ยูโร หรือราว 960,000 บาท ! เนื่องจากทีมติดตั้งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดี (RFID scanner) ไว้บริเวณปากทางเข้าพิทเลน (Pit lane) หรือเส้นทางเข้าออกระหว่างสนามกับจุดซ่อมแซมรถของแต่ละทีม ทำให้สามารถส่องประเภทยางที่ทีมคู่แข่งใช้ได้ 

เครื่องสแกน RFID ทำอะไรได้บ้าง ?

การแข่งขันฟอร์มูล่า อี ใช้ชิปอาร์เอฟไอดี (RFID chips) หรือเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radio Frequency Identification) ซึ่งเป็นระบบระบบเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ฝังชิปไว้ในวัตถุต่าง ๆ เช่น ฉลากสินค้า บัตรพนักงาน หรือติดไว้กับปลอกคอสัตว์เลี้ยง เพื่อติดตามข้อมูลและรายละเอียดของวัตถุชิ้นนั้น โดยอาศัยคลื่นวิทยุ ทำให้ไม่ต้องสัมผัสวัตถุนั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีคลื่นวิทยุประยุกต์ใช้ได้หลากหลายแบบ ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีใกล้ตัวเรา คือแผ่นแม่เหล็กทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสในหนังสือ ที่ใส่เอาไว้กันขโมยนั่นเอง

ทีมฟอร์มูลา อี โดนปรับอ่วม หลังติดเครื่องสแกนแอบส่องยางรถคู่แข่ง ภาพจาก bslw

โดยในการแข่งขันฟอร์มูล่า ก็ได้นำเอาเทคโนโลยีคลื่นวิทยุนี้มาประยุกต์ โดยฝังชิปอาร์เอฟไอดีไว้ในยางรถแข่ง เพื่อติดตามสภาพพื้นยางขณะแข่งขัน และวัดอุณหภูมิและแรงดันลมภายในยางเป็นหลัก ซึ่งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดี (RFID scanner) สามารถสแกนข้อมูลจากชิปได้เลยเพียงแค่นำวัตถุที่ฝังชิปเคลื่อนผ่านตัวเครื่องสแกน โดยไม่ต้องอาศัยการยิงแสงเลเซอร์ ต่างอย่างเครื่องสแกนบาร์โคดทั่วไป


ทีมติดเครื่องสแกน RFID ไว้ปากทางพิทเลน

โดยในวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ทาง เอฟไอเอ (FIA: Fédération Internationale de l'Automobile) หรือสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ ผู้ดูแลการแข่งขันและกฎระเบียบต่าง ๆ ในการแข่งขันฟอร์มูล่า อี ออกมาแถลงว่า ระหว่างรอบฝึกซ้อมและรอบแข่งขันจับเวลาเพื่อจัดอันดับ (qualifying) ในวันเสาร์ ทางทีมดีเอส เพนสกีติดตั้งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดีไว้บริเวณปากทางเข้าพิทเลน

ในตอนแรก แถลงการณ์จากเอฟไอเอระบุว่าทีมดีเอส เพนสกี ติดตั้งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดี เพื่อรวมรวบข้อมูลยางจากคู่แข่ง แต่ต่อมามีการแก้ไข ลบส่วนที่พูดถึงข้อมูลยางรถคู่แข่งออก เหลือแค่ว่า ทางดีเอส เพนสกีสามารถ “รวบรวมข้อมูลถ่ายทอดสดจากรถได้ทุกคัน” 

โดนปรับโทษทั้งทีมและนักแข่ง

การกระทำดังกล่าวทำให้ทีมดีเอส เพนสกี มีข้อได้เปรียบและไม่เป็นธรรมกับทีมอื่น เพราะทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากทีมอื่น แล้วมาปรับแก้กลยุทธ์หาจังหวะแซงรถคันอื่น และรักษายางให้มีประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการแข่งขันล่วงหน้าได้ ทางเอฟไฟเอจึงตัดสินใจปรับให้นักแข่งสองคนจากทีมดีเอส เพนสกี อย่าง สโตเฟล แวนดอร์น (Stoffel Vandoorne) และ ฌอง-เอริก แวร์ญ (Jean-Éric Vergne) ออกสตาร์ทจากพิทเลนแทน นั่นหมายความว่าในรอบการแข่งขันหลัก พวกเขาต้องรอรถคันอื่นจะขับผ่านไปก่อน ก่อนที่จะเข้าออกตัวจากบริเวณท้ายพิทเลนไปยังสนามแข่ง ส่วนทางทีมดีเอส เพนสกีโดนปรับเงินเป็นจำนวน 25,000 ยูโร หรือราว 960,000 บาท

อย่างไรก็ดี ทางเอฟไอเอไม่ได้ลงรายละเอียดว่า เครื่องสแกนอาร์เอฟไอดีที่ทางทีมดีเอส เพนสกี มีกี่เครื่องหรือใช้เครื่องสแกนอาร์เอฟไอดีแบบใด 


นักแข่งแย้งว่าไม่ได้ขโมยข้อมูลจากทีมอื่น

อย่างไรก็ตาม หลังจากการแข่งขันหลักในวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายนจบลง ทางด้าน สโตเฟล แวนดอร์น (Stoffel Vandoorne) นักแข่งจากทีมดีเอส เพนสกีออกมาเผยว่า การกระทำของทีมเป็นสิ่งที่ผิดก็จริงอยู่ แต่ว่าข้อความที่สื่อเผยแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริง โดยแวนดอร์นอธิบายว่า ทางทีมไม่ได้ “ขโมย” ข้อมูล แต่แค่พยายามตรวจสอบดูเฉย ๆ ว่าทีมอื่นใช้ยางประเภทไหน ซึ่งทีมอื่นก็ทำแบบนี้ โดยการใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายภาพรถแข่งคันอื่น

ข้อมูลยางนั้นสำคัญไฉน

ในการแข่งขันรถยนต์ ยางกลม ๆ สี่ล้อถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้เครื่องยนต์และการปรับแต่งตัวรถเลย เพราะยางแต่ละแบบจะมีความแข็ง และอายุการใช้งานยางแตกต่างกันออกไป โดยการแข่งขันฟอร์มูล่า อีแต่ละสนามจะมียางให้ใช้เพียงแค่ 2 ชุด และไม่มีความแข็งยางให้เลือกใช้ ต่างจากการแข่งขันฟอร์มูลาวัน ซึ่งการที่ทีมแข่งมียางให้ใช้เพียงแค่ 2 ชุด เพื่อลงฝึกซ้อม, แข่งขันจับเวลาและแข่งขันหลักกันตลอด 2 วันนั้น ส่งผลอย่างมากต่อการปรับแต่งข้อมูลตัวรถ และกลยุทธ์การขับเพื่อรักษาพื้นยางให้ใช้ได้จนจบการแข่งขัน

นอกจากนี้ในฤดูกาลแข่งขันปีค.ศ. 2023 การแข่งขันฟอร์มูล่า อี เปลี่ยนผู้ผลิตยางจาก มิชลิน (Michelins) เป็น ฮันคุก (Hankook) ซึ่งทำให้ข้อมูลการใช้ยางเปลี่ยนไปอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ทีมแข่งจะพยายามรวบรวมข้อมูลการใช้ยางจากคู่แข่งด้วยสารพัดวิธีแปลก ๆ แบบที่ทีมดีเอส เพนสกีพยายามทำ 

ทีมฟอร์มูลา อี โดนปรับอ่วม หลังติดเครื่องสแกนแอบส่องยางรถคู่แข่ง ภาพจาก fiaformulae

 

ซึ่งในอนาคตทางเอฟไอเอ จะมีแนวทางหรือออกกฎระเบียบกำกับการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์อื่น ๆ ในสนามแข่งเพิ่มเติมหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป 

ที่มาข้อมูล TheVerge, Motorsport

ที่มาภาพ FIAformulaeBSLW

ข่าวแนะนำ