เปิดตัว All-new Toyota C-HR อย่างเป็นทางการในยุโรป
เปิดตัว All-new Toyota C-HR ในยุโรป สุดยอดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด PHEV เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท โตโยต้า (Toyota) เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ All-new Toyota C-HR ปี 2024 ในทวีปยุโรป สุดยอดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของบริษัท โตโยต้า ต่อยอดความสำเร็จมาจากรถยนต์รุ่น C-HR ที่มีชื่อเสียง โดยทางโตโยต้า (Toyota) เป็นบริษัทแรก ๆ ที่เริ่มต้นรถยนต์ SUV ระดับ C-Segment ในทวีปยุโรป
All-new Toyota C-HR ปี 2024 ที่จำหน่ายในยุโรปจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น
1. เครื่องยนต์ไฮบริด รุ่น 1.8 ลิตร ให้กำลังรวม 140 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 9.9 วินาที
2. เครื่องยนต์ไฮบริด รุ่น 2.0 ลิตร (FWD) ให้กำลังรวม 198 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที
3. เครื่องยนต์ไฮบริด รุ่น 2.0 ลิตร (AWD-i) ให้กำลังรวม 198 แรงม้า ปรับแต่งเพิ่มเติมเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.9 วินาที
4. เครื่องยนต์ไฮบริด รุ่น 2.0 ลิตร (Plug-in Hybrid) ให้กำลังรวม 223 แรงม้า รองรับระบบไฟฟ้าล้วนขับขี่ระยะทาง 94 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.7 วินาที
ทีมงานออกแบบของบริษัทได้ออกแบบรถยนต์รุ่นนี้มาเพื่อใช้งานในยุโรปโดยเฉพาะที่รักการเดินทางและมีความคล่องตัวหากขับขี่ภายในตัวเมืองภายใต้แนวคิด "รถยนต์บนท้องถนน" ในครั้งแรกที่เห็นรถยนต์ถูกออกแบบให้คล้ายรถคูเป้แบบใหม่ หรือ "ซูเปอร์คูเป้" ด้านหน้าของตัวรถยนต์คล้ายกับรถตระกูล Toyota SUVs ทั่วไป เช่นเดียวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่น bZ4X ที่เปิดตัวในปี 2022 ที่ผ่านมา
จุดเด่นด้านการออกแบบอยู่ในด้านของความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท เพิ่มประสิทธภาพของการไหลเวียนผ่านของอากาศบริเวณรอบ ๆ ตัวรถยนต์ ซึ่งรวมไปถึงรูปลักษณ์ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น ส่วนการตกแต่งภายในให้ความรู้สึกหรูหราและประณีต ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียมของเจนบีแอล (JBL) แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำ การขับขี่และควบคุมรถยนต์ที่ง่ายโดยใช้การจัดวางแผงหน้าปัดตัวรถยนต์ในแนวนอนและมีลักษณะคล้ายปีกโอบล้อมผู้โดยสารเอาไว้
สำหรับฟีเชอร์อื่น ๆ ภายในตัวรถยนต์ All-new Toyota C-HR ปี 2024 เช่น
1. ระบบไฟส่องสว่างมีให้เลือก 64 สี
2. ระบบปรับอุณหภูมิเย็นหรืออบอุ่น
3. ไฟในรถเปลี่ยนเฉดสีได้ 24 สี สอดคล้องกับช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น เช้าตรู่หรือตอนค่ำ
4. การแจ้งเตือนด้วยเสียงและภาพของระบบ Safe Exit Assist ป้องกันการเปิดประตูและอาจพบกับความเสี่ยง เช่น จักรยาน
5. แพ็คเกจมัลติมีเดีย Toyota Smart Connect ซึ่งรวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 หรือ 12.3 นิ้ว
6. การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนแบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android อัตโนมัติ
7. ฟังก์ชันการจอดรถอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชันระยะไกลในพื้นที่จำกัด
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดโดยใช้ฟีเชอร์ Toyota Safety Sense ความปลอดภัยแบบแอคทีฟตลอดเวลาและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยฟังก์ชันลดอุบัติเหตุ การอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบให้มีความทันสมัยอยู่เสมอคล้ายการอัปเดตแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนโดยไม่จำเป็นต้องเอารถยนต์เข้าศูนย์ ตัวอย่างระบบความปลอดภัย เช่น ระบบช่วยเปลี่ยนเลนพร้อมการแจ้งเตือนการจราจรด้านหน้า, กล้องตรวจสอบคนขับความพร้อมในการขับขี่, ระบบไฟสูงอัตโนมัติพร้อมการควบคุมกล้องเพื่อปรับการกระจายแสง และการขับรถแบบแฮนด์ฟรีจะตามรถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติในสภาวะการจราจรติดขัด
แนวคิดรักโลกลดการปล่อยคาร์บอนและชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลมากขึ้น เทียบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของบริษัท All-new Toyota C-HR ปี 2024 ใช้วัสดุรีไซเคิลเพิ่มขึ้น 2 เท่า ลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งในธรรมชาติ รวมไปถึงชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้กระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ หลังคาแบบใหม่ใช้โลหะน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงกระจกป้องกันอากาศร้อนภายนอกในฤดูร้อนและรักษาความอบอุ่นในฤดูหนาว
ที่มาของข้อมูล Newsroom.Toyota.eu
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67