เรือดำน้ำไททันเคยถูกเตือนว่าไม่ปลอดภัยตั้งแต่ปี 2018 ก่อนคนเตือนจะถูกไล่ออก !
รู้หรือไม่ว่า ? เรือดำน้ำไททัน ของบริษัท OceanGate เคยถูกเตือนว่าไม่ปลอดภัยตั้งแต่ 2018 ขณะที่ผู้เตือน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของบริษัทในขณะนั้น ถูกไล่ออกตั้งแต่หลังแสดงความกังวล
จากเหตุการณ์เรือดำน้ำไททัน (Titan) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่ายานดำน้ำไททัน (Submersible) ที่เป็นเรือสำรวจซากเรือไททานิค (Titanic) ขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชายฝั่ง หลังเริ่มดำลงไปได้เพียง 1 ชั่วโมง 45 นาที ในวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา
รายงานเตือนด้านความปลอดภัยของเรือไททัน (Titan)
เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศอย่างเทคครันช์ (Techcrunch) รายงานว่า ในปี 2018 ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของบริษัท โอเชียนเกต (OceanGate) ชื่อเดวิด ลอชริดจ์ (David Lochridge) ถูกไล่ออกจากบริษัท หลังจากที่เขาได้แสดงความกังวลด้านความปลอดภัยของเรือดำน้ำไททันหลายครั้ง จนในที่สุดเขาจึงได้ตัดสินใจทำรายงานข้อบกพร่องของเรือไททันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และได้นำเสนอแผนการควบคุมคุณภาพต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัท โอเชียนเกต ก่อนจะถูกทีมผู้บริหารระดับสูงปัดตก
โดยเรือดำน้ำลำนี้เป็นเรือดำน้ำสำหรับสำรวจซากเรือไททานิค มีขนาดเท่ารถบรรทุกและมีน้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และไททาเนียม ส่งผลให้ตัวเรือเบาและแข็งแรงกว่าเรือดำน้ำที่ทำจากเหล็ก อย่างไรก็ตาม ในรายงานของเดวิด ลอชริดจ์ได้ระบุไว้ว่าเรือดำน้ำลำนี้ไม่สามารถดำลงไปยังความลึก 3,800 เมตร ที่ซากเรือไททานิคจมอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกได้ เนื่องจากมันไม่สามารถต้านทานความดันน้ำในระดับความลึกดังกล่าวได้
แม้ว่าจะมีการปฏิเสธรายงานของเดวิด ลอชริดจ์ในตอนแรก แต่ต่อมาในปี 2020 สต็อคตัน รัช (Stockton Rush) หนึ่งในซีอีโอของบริษัท โอเชียนเกตก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เรือไททันแสดงอาการล้าจากการหมุน (Cyclic Fatigue) ในการทดสอบ หลังการทดสอบดำน้ำที่ระดับความลึก 4,000 เมตร ในมหาสมุทรแอตแลนติกเขตประเทศบาฮามาส ทำให้ขีดความสามารถในการดำน้ำของมันถูกลดลงเหลือเพียง 3,000 เมตร
ต่อมาทางบริษัทได้ปรับปรุงตัวเรือและยกเลิกการใช้ตัวถังที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ไป ซึ่งบริษัทได้เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2021 และมีค่าบริการราว 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.7 ล้านบาทต่อครั้ง
เหลือเวลากู้ชีพลูกเรือไม่ถึง 24 ชั่วโมง !
โดยในการเดินทางครั้งนี้มีผู้โดยสารทั้งหมด 5 คน ได้แก่ สต็อคตัน รัช ซึ่งเป็นหนึ่งในซีอีโอของโอเชียนเกตที่ปัดตกรายงานด้านความปลอดภัยของเดวิด ลอชริดจ์ในปี 2018, พอล อองรี นาร์โกเล็ต (Paul-Henri Nargeolet), ฮามิช ฮาร์ดิง (Hamish Harding) มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ, ชาห์ซาดา ดาวูด (Shahzada Dawood) นักธุรกิจชาวปากีสถานและลูกชาย
รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) พบว่าอากาศที่เหลืออยู่บนเรือสำหรับผู้โดยสาร 5 คน อาจมีปริมาณเพียงพอไม่เกิน 24 ชั่วโมง จากขีดความสามารถสูงสุด 96 ชั่วโมง
ข้อมูลจาก Techcrunch
ภาพจาก OceanGate
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67