TNN โจ ไบเดนทุ่มงบ 30,000 ล้าน ขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

TNN

Tech

โจ ไบเดนทุ่มงบ 30,000 ล้าน ขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

โจ ไบเดนทุ่มงบ 30,000 ล้าน ขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศทุ่มงบ 930 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้กับประชาชน

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศทุ่มงบ 930 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท ให้กับโครงการเปิดใช้งานโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์มิดเดิลไมล์ (Enabling Middle Mile Broadband Infrastructure Program) ของกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา


ขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพิ่มโอกาสให้ประชาชน 

โครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์ คือการขยายความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าบริการราคาแพงสำหรับเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งงบประมาณที่โครงการได้รับจะถูกนำไปใช้สำหรับการติดตั้งสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใหม่มากกว่า 12,000 ไมล์ หรือประมาณ 19,000 กิโลเมตร ใน 35 รัฐ รวมถึงประเทศเปอร์โตริโกที่เป็นเครือรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย


การติดตั้งสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใหม่จะไปช่วยขยายการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (Federal Communications Commission) ซึ่งเป็นบริการอินเทอร์เน็ตบ้านในราคาย่อมเยาว์จากรัฐฯ โดยมีส่วนลด 30 - 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 1,000 - 2,600 บาทต่อเดือน


สำหรับเงินทุนก้อนนี้จะถูกจัดสรรให้กับบริษัทเอกชนด้านการโทรคมนาคม ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีเวลา 5 ปี ในการทำงานตามโครงการของตนให้สำเร็จ โดยปัจจุบันมีบริษัทเอกชนกว่า 260 แห่ง ส่งคำร้องขอรับทุนภายใต้โครงการดังกล่าว ซึ่งคิดรวมเป็นมูลค่ากว่า 7,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 259,000 ล้านบาท


โดยทางประธานาธิบดีโจ ไบเดนยังได้ออกมาทวีตผ่านบัญชีทวิตเตอร์ด้วยว่า “อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น นั่นเป็นเหตุผลที่ฝ่ายบริหารของผมลงทุนขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาย่อมเยาเพื่อปิดช่องว่างทางดิจิทัล”

ผลพลอยได้จากโครงการ 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ยังหวังด้วยว่าโครงการนี้จะสร้างผลกระทบในทางที่ดีด้านเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ในชนบท รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ห่างไกลให้มีความปลอดภัยมากกว่าเดิม เนื่องจากพื้นที่ชนบทมักประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง เช่น ไฟป่า, น้ำท่วมและพายุ


ข้อมูลจาก U.S. Department of Commerce

ภาพจาก Reuters



ข่าวแนะนำ