Microsoft หยุดพัฒนา Cortana เปลี่ยนไปใช้ Windows Copilot ปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำประกาศหยุดพัฒนาคอร์ทานา (Cortana) ระบบผู้ช่วยส่วนตัวบนผลิตภัณฑ์ Microsoft 365 บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 ในช่วงปลายปี 2023 โดยบริษัทเตรียมแผนการเปลี่ยนไปใช้งานปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่วินโดว์โคไพลอต (Windows Copilot) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์แชตจีพีที (ChatGPT) ที่กำลังถูกนำไปเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ บนระบบปฏิบัติการวินโดว์ (Windows)

คอร์ทานา (Cortana) ระบบผู้ช่วยส่วนตัวของผู้ใช้งานทำให้สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วมากขึ้น เชื่อมต่อข้อมูลจากหลายแหล่ง ๆ ตรวจสอบตารางเวลาที่ข้อมูลถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเรียงลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเข้าใจ รวมไปถึงระบบแจ้งเตือนกิจกรรมต่าง ๆ ตามกำหนดการนัดหมาย คอร์ทานา (Cortana) เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 รองรับการทำงานทั้งบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS รวมไปถึงระบบปฏิบัติการบนเครื่อง Xbox OS

วินโดว์โคไพลอต (Windows Copilot) ระบบปัญญาประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟท์เพื่อใช้งานบนผลิตภัณฑ์ Microsoft 365 ระบบปฏิบัติการ Windows 11 โดยความร่วมมือกับบริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) บริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่บริษัทไมโครซอฟท์เป็นนักลงทุนรายใหญ่ 

การใช้งานวินโดว์โคไพลอต (Windows Copilot) สามารถพิมพ์คำสั่งได้จากแถบเมนูด้านข้างของหน้าจอวินโดว์ในลักษณะเดียวกับการใช้งาน Bing AI Chatbot บริการแชตสนทนากับปัญญาประดิษฐ์ของไมโครซอฟท์ ผู้ใช้งานป้อนคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างง่ายดาย เช่น คำสั่งให้เปิดโหมดการแสดงผลในเวลากลางคืนหรือเปลี่ยนภาพพื้นหลังของหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยไม่จำเป็นต้องคลิกตั้งค่าอื่น ๆ ที่ซับซ้อน

สำหรับวินโดว์โคไพลอตใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ชื่อว่า GPT-4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด วินโดว์โคไพลอต ช่วยให้ผู้ใช้งานจัดการข้อมูลการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงแค่สั่งการให้ปัญญาประดิษฐ์ทำงาน เช่น สรุปการประชุม ข้อมูลการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงส่งงานให้ลูกค้า รวมไปถึงการคำนวณและวิเคราะห์ขั้นสูง บริษัทเตรียมเปิดให้ทดสอบการใช้งานวินโดว์โคไพลอตในช่วงเดือนมิถุนายนนี้

ปัจจุบันบริษัทไมโครซอฟท์กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อันดับต้น ๆ ของโลก โดยใช้ทีมงานวิศกรทั้งจากภายในบริษัทและบริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนาบริการแชตจีพีที (ChatGPT) นำความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์สูงสุด อาจกล่าวได้ว่าปัญญาประดิษฐ์จะกลายเป็นเสมือนผู้ช่วยสำหรับผู้ใช้งานที่ทรงประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถการทำงานให้รวดเร็วมากขึ้น

ที่มาของข้อมูล Engadget

ที่มาของรูปภาพ Microsoft