Canon EOS R8 และ Canon EOS R50 กล้อง 2 รุ่นใหม่ เอาใจคอนเทนต์ครีเอเตอร์
เอาใจคอนเทนต์ครีเอเตอร์ แคนนอนปล่อยกล้อง 2 รุ่นใหม่ลุยตลาดกล้องมิเรอร์เลส กับ EOS R8 และ EOS R50
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (แคนนอน - Canon) ประกาศเดินเกมรุกตลาดกล้องถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอระดับมืออาชีพ ตอกย้ำการเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลก ในตลาดกล้องดิจิทัลถอดเปลี่ยนเลนส์ได้มาต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2003 ล่าสุดยกขบวนผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองเทรนด์การถ่ายภาพและวิดีโอของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ยุคใหม่ หลังจากเปิดตัว EOS R6 Mark II หนึ่งในกล้องแบบมิเรอร์เลส (Mirrorless) ความสามารถรอบด้านที่ดีที่สุดของแคนอน (Canon) ได้ไม่นาน
โดยได้เปิดตัวครบเซ็ตทั้ง EOS R8 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมที่ผสานขุมพลังการถ่ายภาพวิดีโอสุดคมชัดและฟีเจอร์ภาพนิ่งคุณภาพสูงที่ได้รับการถ่ายทอดมากจากรุ่นพี่อย่าง EOS R6 Mark II เช่น Canon Log 3 และการถ่ายต่อเนื่องสูงสุด 40 เฟรมต่อวินาที น้ำหนักเบาพกพาง่ายไม่แพ้กล้อง EOS RP และ EOS R50 กล้องมิเรอร์เลส APS-C ขนาดกะทัดรัด มาเสริมไลน์อัพสำหรับมือใหม่สาย Vlogger หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พร้อมระบบ AI อัจฉริยะที่ช่วยคิดแทนทำให้ทุกการสร้างสรรค์คอนเทนต์เป็นเรื่องง่าย พร้อมเลนส์ตระกูล RF 2 รุ่นใหม่ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM และ RF-S55-210mm f/5-7.1 IS STM ทำให้เหล่าสาวกผู้ใช้งานกล้องมิเรอร์เลสตระกูล EOS R มีตัวเลือกในการใช้เลนส์ได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีมากถึง 35 รุ่น
นอกจากนี้ แคนนอนยังได้เปิดตัวแคมเปญ You ‘R Creator พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาดหลายรูปแบบ เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวิดีโอครีเอเตอร์ตั้งแต่มือสมัครเล่น จนถึงมืออาชีพ ให้รู้จักกับ EOS R8 และ EOS R50 กล้องที่ใช้ง่ายและพร้อมตอบโจทย์การใช้งานและลุยไปกับครีเอเตอร์ได้ทุกที่ กับนิยามที่ว่า “EOS R8 และ EOS R50 เพื่อนสนิทของเหล่าครีเอเตอร์”
มร. ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แคนนอน ให้ความสำคัญกับฟีดแบ็คของผู้ใช้และนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเราตอบโจทย์ความต้องการของผู้รักการถ่ายภาพทุกกลุ่ม ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านอิมเมจจิ้งที่ดีที่สุด กล้องแคนนอน ยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานทั่วโลก และเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งของกล้องดิจิทัลถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 20 นับตั้งแต่ปี 2003
การเปิดตัวกล้อง EOS R8 และ EOS R50 รุ่นใหม่ ภายใต้แคมเปญ You ‘R Creator ในวันนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งของแคนนอนในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคดิจิทัลซึ่งสนใจคอนเทนต์วิดีโอบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นวิดีโอครีเอเตอร์ได้ ถ้ามีความคิดสร้างสรรค์ เรื่องราวที่น่าสนใจ และกล้องดี ๆ สักตัว ซึ่งกล้อง Canon EOS R8 และ R50 มาพร้อมเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้คนทุกเพศทุกวัยสามารถเล่าเรื่องราวผ่านวิดีโอ ไม่ว่าจะทำ Vlog ท่องเที่ยว, ทำอาหาร, รีวิวสินค้า, คอนเทนต์กีฬา, แฟชั่น, แบ่งปันให้ความรู้ หรือต่อยอดสู่การสร้างรายการผ่านช่องทางออนไลน์ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชัน บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “กล้อง Canon รุ่น EOS R8 และ EOS R50 จะมาเสริมทัพไลน์อัพให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่เพิ่มความแม่นยำและสะดวกสบาย ทั้งระบบ AI ตรวจจับโฟกัสและฟังก์ชัน Close up เพื่อโชว์สินค้าระยะใกล้ขณะ Live streaming ได้อย่างลื่นไหล แคนนอนเริ่มทำการตลาดกล้องมิเรอร์เลสเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2018 ปัจจุบันนี้ภายในเวลาเพียง 5 ปี เรามีกล้องในตระกูล EOS R มากถึง 10 รุ่น ซึ่งรวมกล้อง R8 และ R50 ที่เปิดตัวล่าสุด ไลน์อัพที่ครบครันตอบโจทย์ทุกการใช้งานถือเป็นเครื่องยืนยันความตั้งใจของแคนนอนในการรุกตลาดกล้องมิเรอร์เลสอย่างเต็มสูบ”
“สำหรับแคมเปญ You ‘R Creator อักษร R นั้นสื่อถึงกล้องแคนนอนมิเรอร์เลสตระกูล EOS R ที่ย่อมาจากคำว่า Revolution หรือการพลิกโฉมการถ่ายรูปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ ภายใต้แคมเปญ You ‘R Creator นี้ แคนนอนได้ชวนครีเอเตอร์ในสาขาต่าง ๆ มาร่วมถ่ายทอดประสิทธิภาพของกล้องตระกูล EOS R รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เช่น การจัด Roadshow และกิจกรรมเวิร์กชอปต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเข้าถึงผู้ใช้งาน สร้างการจดจำแบรนด์แคนนอนในฐานะผู้นำด้าน Hybrid Camera ที่โดดเด่นทั้งภาพนิ่งและตอบโจทย์งานวิดีโอคุณภาพสูง และเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญของแคนนอนในการรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของกล้องดิจิทัลเปลี่ยนเลนส์ได้อย่างต่อเนื่อง” นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข กล่าวเสริม
กล้อง EOS R8 ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากรุ่นพี่อย่าง EOS R6 Mark II ถือเป็นกล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมที่สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K 60P แบบไม่ครอป พร้อมชูฟังก์ชัน Auto Focus detect only ช่วยให้ภาพวิดีโอดูเนียนตา โฟกัสไม่หลุดแม้เดินเข้า-ออกจากเฟรมภาพ อีกหนึ่งจุดเด่นคือ Canon Log 3 ที่ทำสีได้ตามต้องการ เพื่อการผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูง ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการไฟล์วิดีโอคุณภาพมืออาชีพในราคาที่เอื้อมถึง กลุ่มเป้าหมายของ EOS R8 คือ ผู้ใช้งานที่ต้องการอัปเกรดคุณภาพงานวิดีโอ การปรับตั้งค่าได้ง่ายดายและหลากหลาย เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยม เอาใจฟรีแลนซ์ที่รับงานถ่ายวิดีโอและเหล่า YouTuber
กล้อง EOS R50 ออกแบบมาเพื่อ Content Creator ยุคใหม่อย่างแท้จริง ด้วยฟังก์ชัน Close Up Demo ที่ใช้งานได้ทั้งการบันทึกวิดีโอปกติและ Live Streaming จับโฟกัสใกล้-ไกลได้อย่างแม่นยำ มอบสีสันสมจริง การเชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์-แล็ปท็อป ผ่านสาย USB-C ได้ทั้งภาพและเสียงโดยไม่ต้องผ่านแอปอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยกลุ่มเป้าหมายของ EOS R50 คือ ผู้ที่มองหากล้องตัวเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายเหมือนการใช้สมาร์ตโฟนรวมไปถึงสาย Live Streaming Blogger และ Vlogger อีกด้วย
สำหรับเลนส์ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM เป็นเลนส์ซูมเม้าท์ RF ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาที่สุดสำหรับกล้องฟูลเฟรม ด้วยน้ำหนักราว 210 กรัมและขนาดเพียง 5.8 (เมื่อหดเข้า) พร้อมทำงานสอดรับกับกล้อง EOS R8 เป็นอย่างดี เลนส์ช่วยกล้องฟูลเฟรมถ่ายมุมกว้างและมุมมาตรฐานได้เป็นอย่างดีด้วยความยืดหยุ่นในการจัดองค์ประกอบทำให้เลนส์รุ่นนี้แตกต่างจากเลนส์ไพรม์ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
ส่วน RF-S55-210mm f/5-7.1 IS STM เป็นเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ที่พกพาสะดวก มาเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้กล้องตระกูล EOS R เซนเซอร์ขนาด APS-C ที่กำลังมองหาเลนส์เทเลโฟโต้ที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม เมื่อใช้งานร่วมกับกล้องเซนเซอร์ขนาดฟูลเฟรม จะได้ระยะทางยาวโฟกัสเทียบเท่า88 มม. ถึง 336 มม. พร้อมด้วยความสามารถแบบ Semi Macro (ด้วยกำลังขยายภาพมากถึง 0.28x) และการถ่ายช็อตโคลสอัพ (การโฟกัสใกล้ถึง 0.73ม.) ผลที่ได้คือภาพที่คมชัดมีความละเอียดสูงตลอดทั้งช่วงการซูม
ที่มาของข้อมูล Canon
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67