TNN สตาร์ตอัปใช้ “โดรนบินปลูกพืช” ฟื้นฟูป่าถูกเผา

TNN

Tech

สตาร์ตอัปใช้ “โดรนบินปลูกพืช” ฟื้นฟูป่าถูกเผา

 สตาร์ตอัปใช้ “โดรนบินปลูกพืช” ฟื้นฟูป่าถูกเผา

ปัญหาพื้นที่ป่าถูกทำลายจากการเกิดไฟป่า เป็นสิ่งที่หลายประเทศยังคงหาทางแก้อยู่เรื่อย ๆ สตาร์ตอัปเจ้าหนึ่ง เลยคิดวิธีใช้โดรนบินช่วยหว่านเมล็ดพืชเพื่อปลูกป่า และล่าสุดก็เข้าซื้อบริษัทผู้ผลิตพันธุ์กล้าไม้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับการคืนสีเขียวให้ป่าได้มากขึ้น

โดรนซี้ด (DroneSeed) บริษัทสตาร์ทอัปในซีแอตเติล ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่โด่งดังจากการใช้เทคโนโลยีโดรนบินช่วยฟื้นฟูป่าที่เสียหาย ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น แมส เรฟอร์สเตชัน (Mast Reforestation) พร้อมขยายกำลังด้วยการเข้าซื้อกิจการผู้ผลิตพันธุ์กล้าไม้ เพื่อเดินหน้าคืนพื้นที่ป่าสีเขียวให้มากขึ้น


 สตาร์ตอัปใช้ “โดรนบินปลูกพืช” ฟื้นฟูป่าถูกเผา ภาพจาก Mast Reforestation

โดยบริษัทได้เข้าซื้อกิจการของ คาล ฟอเรสต์ เนิสเซอร์รีส์ (Cal Forest Nurseries) และ ซิลวาซี้ด (SilvaSeed) บริษัทผู้จัดหาเมล็ดพันธุ์พืช ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเมล็ดพันธุ์ที่จะใช้ปลูกป่า และลดระยะเวลาการรอคอยเมล็ดพันธุ์สำหรับใช้ปลูกป่าให้น้อยลง 


 สตาร์ตอัปใช้ “โดรนบินปลูกพืช” ฟื้นฟูป่าถูกเผา ภาพจาก Mast Reforestation

ส่วนบริการหลักของบริษัทในตอนนี้ จะเป็นบริการปลูกป่าตามพื้นที่ เช่น ไร่ส่วนตัว หรือผืนป่าที่ถูกทำลาย ด้วยการใช้โดรนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 ฟุตหรือเกือบ 2.5 เมตร ที่สามารถบรรทุกเมล็ดพันธุ์หนัก 55 ปอนด์ หรือเกือบ 30 กิโลกรัม ในการบินหว่านเมล็ดเหนือพื้นที่เพาะปลูก และเพื่อทำให้การปลูกป่าประสบความสำเร็จ บริษัทจึงใส่ใจตั้งแต่การดูแลเมล็ดพันธุ์ โดยออกแบบตัวภาชนะใส่เมล็ดพันธุ์ที่จะหว่านผ่านโดรน ให้เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต ด้วยการใส่สารกระตุ้นการงอก ปุ๋ย และสารบำรุงอื่น ๆ เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ มีโอกาสที่ดีที่สุด ในการเจริญเติบโต 


 สตาร์ตอัปใช้ “โดรนบินปลูกพืช” ฟื้นฟูป่าถูกเผา ภาพจาก Mast Reforestation

นอกจากนี้ ก่อนจะหว่านเมล็ดพันธุ์สู่ผืนป่า บริษัทยังใช้เทคโนโลยีช่วยตรวจดูความเหมาะสมของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ไลดาร์ (LiDAR) หรือระบบตรวจจับแสงและวัดระยะ และการดูภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงยังมีระบบวิเคราะห์คุณภาพดิน เส้นทางน้ำไหล และพื้นที่โดนแสงแดด เพื่อกำหนดว่าเมล็ดพันธุ์แบบใด ควรเพาะในแต่ละพื้นที่ และมีการกำหนดรูปแบบการบินของโดรน เพื่อโดรนสามารถปล่อยเมล็ดพันธุ์ในสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตที่สุด อีกทั้งโดรนแต่ละลำ ยังมีระบบติดตาม เพื่อประเมินตำแหน่งที่เมล็ดพันธุ์แต่ละชุดถูกหว่านไป ทำให้เราได้รับข้อมูลตำแหน่งที่แม่นยำสำหรับวัดผลการเติบโตของเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นได้ด้วย 



ข้อมูลจาก geekwire, mastreforest, cnbccnbc

ข่าวแนะนำ