Big Tech หืดขึ้นคอ ! ผู้ใช้เทคโนโลยีคลาวด์ลดฮวบ ทำผลประกอบการไม่ขยับ

กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีต่างประเทศกำลังเผชิญช่วงที่ยากลำบาก จากปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคือง และมีรายงานว่า แม้กระทั่งบริการคลาวด์ (Cloud Services) ที่เคยเป็นแหล่งรายได้สำคัญ ยังเติบโตน้อยที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

โดยแอมะซอน (Amazon) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งแบ่งกันครองตลาดระบบคลาวด์ หรือบริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์มาอย่างยาวนาน กำลังเจอปัญหาการเติบโตของผลกำไรอยู่ในระดับต่ำที่สุด นับตั้งแต่มีการเผยผลประกอบการออกมา 

จากที่แอมะซอน เว็บ เซอร์วิส (Amazon Web Services) บริการคลาวด์ ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 ขณะที่ อะซัวร์ (Azure) บริการคลาวด์ของไมโครซอฟต์ ที่เคยมีการเติบโตอยู่ที่ 50% ในช่วงโควิด-19 ระบาดเมื่อปี 2019 แต่ในไตรมาสล่าสุด การเติบโตของ อะซัวร์ กลับเพิ่มขึ้นเพียง 20% เท่านั้น 

ส่วนกูเกิล ซึ่งมีตลาดระบบคลาวด์ที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับทั้ง 3 บริษัท ออกมาเปิดเผยว่า กูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) เติบโตเพียง 32% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 

แอนดรู ลิปส์มัน (Andrew Lipsman) นักวิเคราะห์หลักจาก Insider Intelligence บริษัทด้านการตลาดดิจิทัล กล่าวว่า "การชะลอตัวของแอมะซอน เว็บ เซอร์วิสนั้นแย่กว่าที่คาดไว้ และหมายความว่า แอมะซอนไม่สามารถพึ่งพาผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจคลาวด์ได้มากนักในไตรมาสต่อ ๆ ไป" 

ขณะที่ไบรอัน โอลซอฟสกี (Brian Olsavsky) หัวหน้าฝ่ายการเงินของแอมะซอน กล่าวว่า บริษัทคาดว่าอัตราการเติบโตของธุรกิจคลาวด์จะถดถอยลงไปอีก 2-3 ไตรมาส  เช่นเดียวกับไมโครซอฟต์ ที่ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการเติบโตของธุรกิจคลาวด์ Azure จะชะลอตัวลง 4-5 จุด ในช่วงไตรมาสแรก 

เหตุการณ์เหล่านี้เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองจากโรคโควิด-19 ที่ทำให้เกิดมหกรรมการปลดพนักงานนับแสนคนของกลุ่มบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ และยังส่งผลมาจนปัจจุบันคือทำให้การใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์เติบโตน้อยลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ ยังเหลือธุรกิจม้ามืดที่กำลังมาแรง นั่นก็คือระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ซึ่งเติบโตสวนทิศทางกับเทคโนโลยีคลาวด์ ยกตัวอย่างเช่น แชตจีพีที (ChatGPT) แชตบอตของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ที่โด่งดังเป็นพลุแตก ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา 

ที่มาของข้อมูล reuters

ที่มาของรูปภาพ Reuters