จีนดันมหานครฉงชิ่งเป็นเมืองอัจฉริยะ เมกะโปรเจกต์​เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชาวเมือง

ประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการผลักดันทางด้านเทคโนโลยีที่ผสานเข้ากับวิถีชีวิตของมนุษย์ เห็นได้ชัดจากการที่หลายเมืองภายในประเทศกำลังพัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะ ด้วยการขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเมืองฉงชิ่งด้วยเช่นเดียวกัน  

นครฉงชิ่ง เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการขับขี่ ที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ (Realtime) และวางแผนการจราจรล่วงหน้า ผ่านหน้าจอแสดงผลภายในรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลในเมือง ซึ่งช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดได้  

หนึ่งในชาวเมืองที่อาศัยในนครฉงชิ่ง เล่าให้ฟังว่า ในปัจจุบันมีการนำข้อมูลของรถ ถนน และผู้คนที่เดินเท้า มาหลอมรวมและผสานเข้าหากัน ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลต่าง ๆ จะแสดงบนกระจกมองหลังภายในตัวรถ ให้ความแม่นยำของข้อมูลในระดับมิลลิวินาที หรือระดับ 1 ส่วน 100 ของวินาที 

นอกจากนี้ ในนครฉงชิ่งยังได้มีการติดตั้งเซนเซอร์มากกว่า 500 เครื่อง และยังรวมไปถึงเรดาร์ต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์เหล่านี้จะส่งกลับไปยังศูนย์ควบคุมกลางที่ในแต่ละวินาทีจะมีการประมวลผลข้อมูลระหว่าง 1,000 - 1,400 ชุด ก่อนส่งข้อมูลกลับไปยังยานพาหนะที่ต้องการใช้งานข้อมูลนี้

นอกจากการจราจร นครฉงชิ่งยังได้ยกระดับอุโมงค์สาธารณูปโภคใต้ดินของเมืองด้วยเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน ทั้งเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ 10,000 ตัว ตลอดแนวอุโมงค์สาธารณูปโภครวมของเมือง ร่วมกับประตูกันไฟที่มีระยะทุก 200 เมตร ป้องกันอัคคีภัยได้ดียิ่งขึ้น ระบบเซนเซอร์สามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศ อุณหภูมิ และตำแหน่งของบุคลากร เพื่อลดอุบัติเหตุในการควบคุมสถานการณ์ รวมไปถึงบำรุงรักษาจากระยะไกลได้อีกด้วย  

นอกจากนครฉงชิ่งแล้ว ประเทศจีนยังมีโครงการนําร่องเมืองอัจฉริยะอีกกว่า 290 โครงการ รวมไปถึงการยกระดับอุโมงค์สาธารณูปโภคใต้ดินด้วยระบบเซนเซอร์มากกว่า 1,600 แห่ง ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างรวมระยะทางถึง 5,900 กิโลเมตร เพื่อให้ประเทศจีนกลายเป็นประเทศที่มีเมืองอัจฉริยะในทุกมณฑลต่อไป

ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ CMG