RAPIDFire ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานโดรนบินบนอากาศและเรือบนผิวน้ำอัตโนมัติ

ระบบได้การออกแบบมาเพื่อการค้นหาและทำลายเป้าหมายที่มีแนวโน้มเป็นอันตรายโดยใช้อาวุธปืนขนาด 40 มม.

ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านการทหารถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและเริ่มพบเห็นการนำโดรนบินมาใช้ในภารกิจด้านการทหารเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดบริษัท ทาลาส (Thales) ผู้นำด้านการเทคโนโลยีการทหารได้ทำการเปิดตัว RAPIDFire ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานโดรนบินบนอากาศและเรือบนผิวน้ำแบบอัตโนมัติ สามารถติดตั้งได้ทั้งบนเรือรบและรถบรรทุกปืนใหญ่อัตตาจร

ในช่วงสงครามความขัดแย้งระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานในระหว่างปี 2021 ที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศเริ่มมีการนำโดรนบินอัตโนมัติเข้าโจมตีใส่กันอย่างรุนแรง ลดการใช้กำลังพลที่เป็นมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสียหายให้กับกำลังพลฝ่ายตรงข้าม ความสำคัญของการใช้โดรนบินโจมตีด้านการทหารเริ่มชัดเจนขึ้นอีกครั้งในสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยในระยะไม่กี่วันมานี้เริ่มพบเห็นการใช้งานโดรนโจมตีฝ่ายตรงข้ามจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นการปล่อยโดรนบินจากระยะไกลพุ่งเข้าใส่เป้าหมายโดยอัตโนมัติ จากการใช้โดรนบินปฏิบัติภารกิจด้านการทหารของสงครามทั้ง 2 ครั้งที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นทำให้เทคโนโลยีป้องกันตัวเอง อาวุธต่อสู้อากาศยานประเภทโดรนจะมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต

RAPIDFire ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานโดรนบินบนอากาศและเรือบนผิวน้ำแบบอัตโนมัติ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการค้นหาและทำลายเป้าหมายที่มีแนวโน้มเป็นอันตรายต่อเรือรบหรือเขตพื้นที่สู้รบด้วยอาวุธปืนขนาด 40 มม. ใช้การยิงต่อเนื่องที่แม่นยำในราคาประหยัด

ระบบควบคุมการยิงด้วยแสงออปโตรนิกที่มีความแม่นยำสูง ภายใต้แนวคิดยิ่งเพิ่มความแม่นยำจำนวนกระสุนที่ใช้จะลดลงทำให้ต้นทุนในการสู้รบลดลงตามไปด้วย บริษัทผู้พัฒนาเคลมว่าระบบป้อมปืนดังกล่าวสามารถยิงสกัดโดรนได้ประมาณ 30 ลำ แม้โดรนบินใช้การโจมตีแบบฝูงบินหลายลำ

ระยะในการยิงป้องกันภัยคุกคามจากโดรนบิน เรือบนผิวน้ำและขีปนาวุธ อยู่ที่ประมาณ 4 กิโลเมตร ปืนสามารถปรับเปลี่ยนลูกกระสุนให้เหมาะสมสำหรับภารกิจ เช่น กระสุนลูกปลายที่แตกตัวได้อัตโนมัติเพื่อทำลายโดรน และกระสุนหัวระเบิดสำหรับการยิงโจมตีเรือเร็วบนผิวน้ำ