เทคโนโลยีตรวจดีเอ็นเอช่วยไขคดีคนหายเรื้อรังกว่า 50 ปี
ไขคดีคนหายยาวนานกว่า 50 ปี ด้วยเทคโนโลยีตรวจสอบดีเอ็นเอ สิ้นสุดการตามหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ในปี 1972 ครอบครัวของซูซาน พูล (Susan Poole) วัย 15 ปี ได้เข้าแจ้งความคนหายกับตำรวจ เนื่องจากพบว่าซูซาน พูลหายออกจากบ้าน โดยเธอเคยอาศัยอยู่ที่เมืองฟอร์ท ลอเดอร์เดล (Fort Lauderdale) รัฐฟลอริดา
หนึ่งปีครึ่งต่อมา ในเดือนมิถุนายน 1974 มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่นายอำเภอพบศพมนุษย์ในเทศมณฑลปาล์มบีช (Palm Beach) รัฐฟลอริดา สภาพเหลือเพียงกระดูกและถูกมัดไว้กับต้นไม้ด้วยลวดหนามในป่าชายเลน
แต่ในขณะนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีตรวจสอบดีเอ็นเอ (DNA) และสภาพศพเหลือเพียงกระดูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตได้
ในเดือนธันวาคม ปี 2015 โอแทรม (Othram) บริษัทสัญชาติอเมริกันที่เชี่ยวชาญด้านลำดับวงศ์ตระกูลทางนิติเวชได้เข้ามาช่วยไขคดีโดยใช้เทคโนโลยีของบริษัท รวมถึงคดีอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนผู้เสียชีวิตได้
เมื่อเทียบกับดีเอ็นเอของโครงกระดูกข้างต้นกับคุณแม่ของซูซาน พูล พบว่าดีเอ็นเอของทั้ง 2 ตรงกัน คดีคนหายที่กินเวลามาตลอด 50 ปี จึงกลายเป็นคดีฆาตกรรม
ในปี 1995 มีการจับกุมฆาตกรต่อเนื่องนามเจอราร์ด เชฟเฟอร์ (Gerard Schaefer) ในข้อหาฆาตกรรมเด็กสาวอายุ 16 ปี 1 คน และเด็กสาวอายุ 17 ปี 1 คน ซึ่งก่อนหน้านั้น เจอราร์ด เชฟเฟอร์ดำรงหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชานเมืองฟอร์ต ลอเดอร์เดล โดยเขาถูกแทงเสียชีวิตภายในเรือนจำในเวลาต่อมา
แม้จะดูจากรูปคดีทั้ง 2 ที่มีความคล้ายคลึงกัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันก็ยังขาดหลักฐานที่หนาแน่นพอจะเอาผิดเจอราร์ด เชฟเฟอร์ในข้อหาฆาตกรรมซูซาน พูล โดยเจ้าหน้าที่ต้องการมอบความยุติธรรมให้กับซูซาน พูลและครอบครัวอย่างถึงที่สุด แม้เจอราดร์ด เชฟจะเสียชีวิตไปนานแล้ว
ในส่วนครอบครัวของซูซาน พูล พวกเขากล่าวว่ารู้สึกดีใจที่อย่างน้อยก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และในที่สุดก็ได้เจอเธอเสียที
ข้อมูลจาก www.cbsnews.com
ภาพจาก www.facebook.com
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67