Google เพิ่ม Immersive View ระบบภาพ 3 มิติที่พาคุณเยี่ยมชมสถานที่แบบสมจริงจากทั่วโลก

Google Maps เตรียมเพิ่มระบบ Immersive View ที่เหนือกว่า Street View ธรรมดาด้วยการเรนเดอร์ (Render) ภาพสามมิติของสถานที่จริงทั่วโลก

ในช่วงหนึ่งของงาน Google I/O งานประชุมผู้พัฒนาประจำปี 2022 เมื่อวันพุธที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศุนทัร ปิจไช (Sundar Pichai) ผู้บริหารกูเกิล (Google) ได้ออกมาเปิดเผยว่า Google Maps แอปพลิเคชันนำทางของกูเกิล (Google) จะเพิ่มระบบที่เรียกว่า Immersive View ซึ่งเป็นการสร้างภาพสามมิติเสมือนจริงของสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะตึกระฟ้าของสหรัฐฯ และเมืองใหญ่ทั่วโลกในปีนี้

Immersive View เป็นฟีเจอร์ (Feature) ใหม่ล่าสุดที่เกิดขึ้นจากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) กับการแสดงผลด้วยคอมพิวเตอร์ ผสานเข้ากับภาพที่ได้จากระบบ Google Street View ระบบถ่ายภาพเส้นทางตามท้องถนนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างโมเดลสามมิติมีที่รายละเอียดสูง โมเดลนี้ครอบคลุมอาคารสถานที่ต่าง ๆ และวิวทิวทัศน์โดยรอบ

อย่างไรก็ตาม ระบบภาพสามมิติของกูเกิล (Google) ไม่ได้มีแค่บน Google Maps มาก่อน เพราะก่อนหน้าการเปิดตัวในครั้งนี้ก็มีระบบภาพสามมิติบน Google Earth อยู่ก่อนแล้ว แต่ว่าระบบดังกล่าวยังขาดความสมจริง เพราะภาพสามมิติที่ได้เป็นเพียงการสร้างโมเดลคร่าว ๆ จากภาพถ่ายดาวเทียมเท่านั้น

มิเรียม แดเนียล รองประธานผู้รับผิดชอบ Google Maps ได้กล่าวในเว็บบล็อกของกูเกิล (Google) ว่า ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อม สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงร้านอาหารและสถานที่ยอดนิยมในเมืองต่าง ๆ ได้สมจริงโดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเยือนด้วยตัวเอง

รวมถึงยังกล่าวต่ออีกด้วยว่า นอกจากจะแสดงภาพสามมิติที่สมจริงแล้ว ยังมีความสามารถพิเศษที่สร้างภาพสามมิติแยกตามช่วงเวลาของวัน หรือแม้แต่ฤดูกาลได้อีกด้วย

ระบบ Immersive View พร้อมเปิดตัวให้ใช้งานสำหรับเมืองใหญ่อย่างลอสแอนเจลิส ลอนดอน นิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และโตเกียว ภายในปีนี้หลังการประกาศในงานโดยเมืองอื่น ๆ จะพร้อมเปิดตัวในภายหลัง

เป้าหมายของการสร้างฟีเจอร์ Immersive View คือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศจากการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยไม่จำเป็น ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้งาน Google Maps ในพื้นที่สหรัฐฯ และแคนาดาจะได้ใช้ฟีเจอร์ Eco-Routing สำหรับการแนะนำเส้นทางการขับรถที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่งด้วย

ที่มาของข้อมูล engadget.com

ที่มาของรูปภาพ Google