TNN 3 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจากการเปิดบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี

TNN

Tech

3 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจากการเปิดบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี

3 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจากการเปิดบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี

ปัจจุบันคริปโทเคอร์เรนซีกลายเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยแจ้งเกิดให้กับเศรษฐีหน้าใหม่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กระแสการลงทุนในเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีทำให้เกิดเศรษฐีหน้าใหม่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีที่เกิดจากการซื้อเหรียญบิตคอยน์ในช่วงที่เปิดให้มีการซื้อขายครั้งแรก หรือเป็นเศรษฐีที่ทำรายได้จากการเปิดบริษัทนายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี่บนแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือ


ปัจจุบันตลาดคริปโทเคอร์เรนซีกลายเป็นหนึ่งในตลาดทุนที่มีกระแสเงินสดหลั่งไหลเข้ามามากที่สุดในโลกไปแล้ว และยังคงมีเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเกิดใหม่ขึ้นมาอีกจำนวนมาก โดยมหาเศรษฐีคริปโทเคอร์เรนซีส่วนใหญ่มาจากการที่พวกเขามองเห็นช่องทางโอกาสสร้างรายได้ตรงนี้ บทความนี้จะยกตัวอย่าง 3 มหาเศรษฐีที่สามารถทำรายได้จากการเปิดบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี่

 

1.Sam Bankman-Fried

 

Sam Bankman-Fried ถือเป็นมหาเศรษฐีสายคริปโทเคอร์เรนซีที่อายุน้อยที่สุด โดยเขากลายเป็นมหาเศรษฐีอย่างเต็มตัวเพียงแค่อายุ 29 ปีเท่านั้น จากการที่เขาได้ทำการก่อตั้งบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีชื่อ FTX (เอฟทีเอ็กส์) บริษัทนี้ได้มีการก่อตั้งขึ้นมาในปี 2019 และในช่วงปี 2021 บริษัทมีผลประกอบการอยู่ที่ $26.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยกัน


ปัจจุบันบริษัท FTX ยังคงเดินหน้าเปิดผลิตภัณฑ์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีชนิดใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมีการเสนอขายตราสารอนุพันธ์, เหรียญโทเคนดิจิทัล และกำลังนำบริษัทเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ในช่วงที่ผ่านมาเขาได้ทำการบริจาคเงินให้กับคณะหาเสียงของโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลานั้นมากถึง $5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

2. Brian Armstrong

 

Brian Armstrong เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Coinbase (คอยน์เบส) บริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ระดับโลก บริษัทนี้มีการก่อตั้งขึ้นมาในปี 2012 จุดเริ่มต้นมาจากการที่เขาได้ลาออกจากตำแหน่งวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของบริษัท Aribnb บริษัทที่ทำระบบจองห้องพักโรงแรม


บริษัท Coinbase การันตีในเรื่องของปริมาณการซื้อขายที่เข้ามาอย่างหนาแน่นทุกวันจากนักลงทุนรายย่อย ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเคยเจอกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นถูกระงับการซื้อขายเนื่องจากราคาคริปโทเคอร์เรนซีในเวลานั้นมีความผันผวน และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว ทางบริษัทได้มีการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่าตลาดในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมามากถึง $65.961 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

3. Barry Silbert 

 

Barry Silbert เป็นซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท Digital Currency Group (ดิจิทัล เคอร์เรนซี กรุ๊ป หรือDCG) บริษัทร่วมทุนทางด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทนี้มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการเงินโลกด้วยการส่งเสริมเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน


ปัจจุบันเขามีสินทรัพย์ทั้งหมดอยู่ราว ๆ $1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทย่อยของ DCG ประกอบไปด้วยบริษัท Grayscale (เกรย์สเกล) บริษัทที่โฟกัสในเรื่องของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและเขายังเป็นผู้ริเริ่มตั้งก่อตั้งกองทุน Grayscale Bitcoin Trust (เกรย์สเกล บิตคอยน์ ทรัสต์) กองทุนคริปโทเคอร์เรนซียักษ์ใหญ่ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงเหรียญดิจิทัลได้ง่ายมากขึ้น

 

ข้อมูลจาก : Investopedia.com

ภาพจาก : maxpixel.net

ข่าวแนะนำ