TNN เผยสหรัฐ-ยูเครน ถูกโจมตีทางไซเบอร์ คาดมีรัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

TNN

Tech

เผยสหรัฐ-ยูเครน ถูกโจมตีทางไซเบอร์ คาดมีรัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

เผยสหรัฐ-ยูเครน ถูกโจมตีทางไซเบอร์ คาดมีรัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

มีรายงานว่า สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศรัสเซีย-ยูเครนเวลานี้เริ่มมีการรณรงค์สนับสนุนการแฮกทั้งทางตรงและทางอ้อมมากขึ้น

ในประเทศยูเครนนั้น ไม่เพียงแค่จะมีการรุกรานทางการทหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เวลานี้ประเทศยูเครนกำลังเผชิญกับสงครามไซเบอร์ เรื่องนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้มองว่า รัสเซียได้มีการเปิดเกมโจมตีทางไซเบอร์ในประเทศยูเครนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปิดตัวจ่ายไฟฟ้าในประเทศ


สอดคล้องกับ Google ที่ได้มีการระบุว่า เวลานี้มีการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แต่การโจมตีนี้เป็นการพุ่งเป้าไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยของยูเครนและกองทัพของโปแลนด์ ทางด้านบริษัท Resecurity บริษัททางด้านความปลอดภัยได้มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการรณรงค์การแฮกโดยมีการพุ่งเป้าที่บริษัทของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก โดยเฉพาะบริษัทก๊าซธรรมชาติ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตอบโต้การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกพลังงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า การโจมตีตรงนี้มีฝ่ายรัสเซียและประเทศพันธมิตรเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง


ฝ่ายวิเคราะห์ภัยคุกคามของ Google หรือ TAG ได้กล่าวว่า การโจมตีมีการพุ่งเป้าหมายไปยังบริษัท UkrNet ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารสัญชาติยูเครน รวมไปถึงการโจมตีข้อมูลรัฐบาลยูเครนและองค์กรทางด้านการทหาร โดยกลุ่มดังกล่าวนี้เป็นกลุ่มที่มีชื่อว่า Fancy Bear ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการจารกรรมข้อมูล และมีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานทางด้านข่าวกรองของประเทศรัสเซีย และมีส่วนสำคัญในการแฮกอีเมลของพรรคเดโมแครตของสหรัฐอเมริกา


ทางด้าน Gene Yoo ซีอีโอของบริษัท Resecurity ได้กล่าวว่า เขาเองก็เคยคิดว่าการโจมตีนี้น่าจะมีการให้ทุนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่ก็ไม่อาจการันตีเรื่องนี้ได้ โดยการโจมตีทางไซเบอร์ได้มีการเริ่มต้นขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนที่รัสเซียจะทำการบุกประเทศยูเครน และเป็นจังหวะโอกาสที่จะใช้เวลานี้ในการเข้ามาโจมตีบริษัทส่งออกก๊าซของประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อสร้างความได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์  


อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพียงข้อสมมุติฐานจากทางบริษัท Resecurity กับทางฝ่ายวิเคราะห์ภัยคุกคามของ Google เท่านั้น โดยที่ทางรัสเซียไม่ได้มีการชี้แจงเรื่องนี้แต่อย่างใด


ข้อมูลจาก : theverge.com

ภาพจาก : Unsplash

ข่าวแนะนำ