TNN พรีวิว เอฟเอ คัพ 2023-24 : แมนยู พบ ลิเวอร์พูล

TNN

กีฬา

พรีวิว เอฟเอ คัพ 2023-24 : แมนยู พบ ลิเวอร์พูล

พรีวิว เอฟเอ คัพ 2023-24 : แมนยู พบ ลิเวอร์พูล

พรีวิว การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2023-24 เป็นการพบกันระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล

รายการ : ฟุตบอลเอฟเอ คัพ 2023-24

แมตช์การแข่งขัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล

วัน / เวลาทำการแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 เวลา 22.30 น.

สนาม :  โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ถ่ายทอดสด : beIN Sports 3


พรีวิว เอฟเอ คัพ 2023-24 : แมนยู พบ ลิเวอร์พูล

ที่มาภาพ : AFP


สภาพความพร้อม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ทัพ "ปีศาจแดง" ผ่านการแข่งขันศึกเอฟเอ คัพ มาด้วยชัยชนะทั้ง 3 นัดติดต่อกัน โดยนัดแรกบุกไปชนะ วีแกน มาด้วยสกอร์ 2-0 ต่อมาในรอบ 32 ทีมสุดท้าย ชนะ นิวพอร์ท ไปด้วยสกอร์ 4-2 และในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เฉือนเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไปด้วยสกอร์ 1-0


ความพร้อมของทีมในแมตช์นี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไทเรลล์ มาลาเซีย, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, โอมารี ฟอร์สัน, จอนนี่ อีแวนส์ และ อัลตาย บายินเดียร์ ที่ยังคงมีปัญหาอาการบาดเจ็บ และในเกมนี้ต้องรอเช็คความฟิตของ อารอน วาน บิสซาก้า และ เมสัน เมาท์ แต่คาดว่าจะได้ ราสมุส ฮอยลุนด์ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กลับมาลงสนามช่วยทีม


เกมนี้ เอริค เทน ฮาก น่าจะจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูยังคงเป็น อังเดร โอนาน่า ลงเฝ้าเสา ส่วนแผงกองหลังวาง ดิโอโก้ ดาโลท์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ราฟาเอล วาราน และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ คู่กองกลาง ค็อบบี้ ไมนู จับคู่ คาเซมิโร่ โดยมี บรูโน่ แฟร์นันเดส เป็นตัวสร้างสรร์เกม ผู้เล่นแนวรุก มาร์คัส แรชฟอร์ด, อเลฮานโดร การ์นาโช่ ส่วนกองหน้าตัวเป้า ราสมุส ฮอยลุนด์


พรีวิว เอฟเอ คัพ 2023-24 : แมนยู พบ ลิเวอร์พูล

ที่มาภาพ : AFP


สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

ทัพ "หงส์แดง" ผ่านการแข่งขันศึกเอฟเอ คัพ มาด้วยชัยชนะทั้ง 3 นัดติดต่อกัน โดยนัดแรกบุกชนะ อาร์เซนอล ไปด้วยสกอร์ 2-0 ต่อมาในรอบ 32 ทีมสุดท้าย เปิดบ้านชนะ นอริช ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 5-2 จากนั้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เปิดบ้านถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0


ความพร้อมของทีมในแมตช์นี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โจเอล มาติป, ดิโอโก้ โชต้า, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลิสซอน เบ็คเกอร์, สเตฟาน บายเซติช, เคอร์ติส โจนส์, อิบราฮิม่า โคนาเต้, ติอาโก้ อัลคันทาร่า ต่างก็มีอาการบาดเจ็บและยังไม่พร้อมลงสนามในเกมนี้ ส่วนทางด้าน ไรอัน กราเวนเบิร์ก และ เจย์เดน แดนส์ ยังคงต้องรอเช็คความฟิตว่าจะพร้อมในเกมนี้หรือไม่


เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูยังคงเป็น ควีวีน เคลเลเฮอร์ ลงเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ็คโฟร์วาง โจ โกเมส, จาเรลล์ ควอนซาห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กองกลางสามประสาน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโดะ และ โดมินิค โซบอสซ์ไล ส่วนผู้เล่นในแนวรุก โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ


สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด

17/12/23 พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล  0 - 0  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

05/03/23 พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล  7 - 0  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

23/08/22 พรีเมียร์ลีก : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  2 - 1  ลิเวอร์พูล

12/07/22 อุ่นเครื่อง : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  4 - 0  ลิเวอร์พูล

20/04/22 พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล  4 - 0  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


บทวิเคราะห์

ทัพ "ปีศาจแดง" ผลงานเริ่มกลับมาดูดีขึ้น โดย 10 นัดหลังสุดในทุกรายการ ชนะไปถึง 7 นัด และพวกเขายังได้พักอย่างเต็มที่เพราะไม่มีเกมกลางสัปดาห์ โดยในนัดล่าสุดในลีกพวกเขาเอาชนะเฟเวอร์ตันมาได้เรียกความมั่นใจก่อนเจอลิเวอร์พูลในเกมนี้ สภาพทีมพวกเขาจะได้ ฮอยลุนด์ กับ แม็คไกวร์ กลับมาช่วยทีม แต่ยังขาดแบ็คซ้ายอาชีพอยู่เหมือนดิม


ส่วนทัพ "หงส์แดง" ผลงานยังคงเส้นคงวาและเป็นทีมที่สม่ำเสมอมากๆ ในฤดูกาลนี้ ผลงาน 10 นัดหลังสุดในทุกรายการ ชนะไปถึง 8 นัด และแพ้แค่นัดเดียว นัดกลางสัปดาห์เพิ่งโชว์ฟอร์ดโหดถล่มเอาชนะสปาร์ต้า ปาร์ค มักได้ 6-1 และผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโรป้าลีกไปเจอกับ อตาลันต้า ส่วนบรรดาผู้เล่นก็ยังขาดแบ็คขวาอย่าง เทรนท์ ที่ยังไม่สามารถช่วยทีมได้ แต่จะได้ ซาลาห์ กับ นูนเญซ กลับลงมาเป็นตัวจริงได้แล้ว


สำหรับเกมนี้ ด้วยความเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีแดงเดือด น่าจะสู้กันเต็มที่ทั้งนักเตะและโค้ช แถม แมนยู น่าจะป็นถ้วยสุดท้ายที้มีลุ้นแล้วในฤดูกาลนี้ คงคาดหวังว่าจะมีถ้วยติดไม้ติดมือไปบ้างให้อุ่นใจ แต่ทางด้านของ ลิเวอร์พูล เองก็ต้องการถ้วยทุกถ้วยเพื่อเป็นการส่งท้าย คล็อปป์ ให้ได้เช่นกัน หากมองฟอร์มการเล่นแล้ว หงส์แดง ก็ยังคงเหนือกว่า แต่เชื่อว่าการเล่นในบ้านน่าจะทำให้ ปีศาจแดง มีแรงหึดมาได้บ้าง

 

สกอร์ที่คาด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  1 - 2  ลิเวอร์พูล

ข่าวแนะนำ