ผู้โดยสารสาวสวมบทนาตาชา ส่งซิกแอร์ฯ จับโจรบนเครื่องบินระทึกเหมือนหนัง
ผู้โดยสารสาวสวมบทนาตาชา หลังเผชิญหน้าโจรบนเครื่องบิน แอบส่งข้อความลับ ๆ ให้แอร์ฯ เรียกเจ้าหน้าที่รวบตัวทันควัน
ในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยว นอกจากเรื่องอุบัติเหตุแล้ว มิจฉาชีพ และโจรที่แฝงคราบมาในรูปแบบของคนปกติเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องระมัดระวัง ล่าสุดมีผู้โดยสารสาวรายหนึ่งได้ประสบเหตุการณ์เผชิญหน้ากับโจรบนเครื่องบิน ถึงแม้โจรรายดังกล่าวไม่ได้ขโมยทรัพย์สินของเธอ แต่เธอก็ช่วยจับโจรได้ด้วยการเขียนข้อความส่งให้แอร์โฮสเตสแบบลับ ๆ เรียกได้ว่าเหตุการณ์นั้นระทึกเหมือนอยู่ในหนังไม่มีผิด โดยเรื่องทั้งหมดมีดังต่อไปนี้
‘เตือนภัยโจรขโมยของบนเครื่องบิน’ ขอแชร์ประสบการณ์ การจับโจรบนเครื่องบินค่ะ
- เราเดินทางจากกรุงเทพไปฮ่องกง เวลาประมาณตีสาม ของวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
- เรากับเพื่อนขึ้นเครื่องเกือบเป็นคนท้ายๆของลำ เรานั่งในแถว41 เรานั่งริมหน้าต่าง เพื่อนนั่งกลาง และเป็นชายวัยกลางคนนั่งริมทางเดิน
- พอเครื่องออกบินไปได้สักพัก เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงกลางเริ่มบอกเราว่าคนข้างๆขยับแบบตลอดเวลาไม่หยุด และเอาตัวเข้ามาใกล้ๆเพื่อนเราจนน่าอึดอัด และเริ่มยกเท้าขึ้นมาสูงมาก พอสัญญาณไฟดับลง เพื่อนเลยเดินไปหาแอร์เพื่อขอย้ายที่นั่ง
- พอเพื่อนเราเดินไปหาแอร์ ผู้ชายวัยกลางคนดูรนๆขึ้นมาทันทีค่ะ ตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันทำให้เราเริ่มสังเกตเขา
- และทันใดนั้นเขาก็เดินมุ่งไปที่หน้าเครื่องเพื่อหาแอร์ ตรงจุดที่เพื่อนเราอยู่ เพื่อขอน้ำ ตอนนั้นเราคิดว่าไม่ปกติแน่ๆ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาทำอะไร ( เราเลยสังเกตว่าน้ำขวดเก่าเขาก็ยังไม่หมด จะไปทำไม)
- พอเพื่อนเราย้ายไป กลายเป็นโจรกับเรานั่งอยู่สองคน โดยที่ที่นั่งตรงกลางว่าง ( ตอนนี้โจรกับเราจับตาดูกันและกันตลอดเวลา สงครามประสาทสุด )
- เนื่องจากเป็นไฟล์กลางคืน ในเวลาต่อมาไฟถึงดับมืดลงค่ะ จังหวะนั้น โจรหยิบกระเป๋าจากบนเคบินมา วางไว้ที่นั่งว่างๆ ย้ายกระเป๋าไปไว้ที่ขาของเขา และหยิบมันขึ้นมาค้น (มือเขาสั่นมาก ) และสุดท้ายเขาได้หยิบบางอย่างจากกระเป๋าใบนั้นเก็บไว้เอง และเอากระเป๋าวางคืนที่เดิม
-ตอนนั้นเราเองก็ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร เพราะเราขึ้นเครื่องหลังเขา คิดว่าอาจจะหยิบของตัวเองก็ได้ แต่เริ่มคิดว่าเขาอาจจะเป็นโจร ทางเดียวที่เราจะรู้ได้คือ เจ้าของกระเป๋าตัวจริง ต้องหยิบกระเป๋าใบนั้น
- เดชะบุญมากที่ต่อมาอีกประมาณ 20 นาที เจ้าของกระเป๋าตัวจริงนั่งอยู่แถว 42หยิบกระเป๋าเพื่อเอาปากกา ( แต่ก็ยังไม่รู้ตัวว่าของหาย) ตอนนั้นโจรก็ดูรนมากอีกครั้ง
- เราเองที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างและโจรก็จับตาดูเราทุกการเคลื่อนไหว พยายามคิดว่าจะทำยังไงเพื่อขอความช่วยเหลือ
เราเลยเขียนโน้ตและยื่นให้แอร์ตอนที่แอร์มาเก็บขยะ (ตอนนั้นเราใจเต้นมากมีความกังวลหลายอย่าง ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เป๊ะมาก)
- แอร์ได้รับโน้ต และพยักหน้า จากนั้นไม่นานมีแอร์ผู้ชายเดินมาถามผู้โดยสายแถวที่ 42 ว่ามีอะไรหายมั้ย ตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้ตัวบอกว่าไม่มี โจรมือสั่นสุด ๆ และรนมากตอนนั้น และก็โล่งใจที่ผู้เสียหายยังไม่รู้ตัว
- พอเครื่องจะลงจอดจริงๆ ผู้เสียหายรู้ตัวค่ะ! และแอร์บนเครื่องคอยสังเกตุอยู่ ทางสายการบินก็ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
- พอเครื่องลงจอดราต่อสัญญาณมือถือ และบอกเพื่อน เพื่อนเลยบอกแอร์และย้ายเราไปนั่งที่ด้านหน้า ระหว่างรอตำรวจมา
- ตอนเครื่องจอดแล้ว เรามองออกไปข้างนอก ด้านนอกประสานงานกันจ้าละหวั่นเลยค่ะ
- ต่อมาอีกราวๆ 15-20 นาที ตำรวจก็มาจับโจรบนเครื่อง
- ตอนโจรออกไปจากเครื่องก็มองแรงเราไป 1 ที
- จากนั้นเราก็ให้ปากคำกับตำรวจที่ภาคพื้น
*สิ่งที่โจรหยิบไปเรามารู้ตอนเจอผู้เสียหายว่าคือเงินค่ะ ช่วงนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาล พี่ ๆ ที่เดินทางช่วงนี้ดูและตัวเองและทรัพย์สินให้ดีนะคะ ของมีค่าพกติดตัวไว้ตลอด โจรมีอยู่ทุกที่ค่ะ* เรียกว่าเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลาย ๆ คนที่กำลังเดินทางอยู่ในขณะนี้ให้เพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะโจร และมิจฉาชีพแฝงตัวมาในทุกรูปแบบจริง ๆ
ข้อมูลจาก : Kanya Chumsana
ภาพจาก: Kanya Chumsana