สาวสุดซ้ำ! ให้ญาติยืมรถไปขับเอาไปชนจนพังยับ ถามกลับทำไมต้องขอโทษ
สาวแชร์ประสบการณ์อุทาหรณ์สุดช้ำ! ให้ญาติยืมรถขับไปชนพังยับทั้งคัน แถมยังถามกลับทำไมต้องขอโทษด้วย
วันนี้ (10 พ.ค. 66 )เป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอยู่ในโซเชียลมชีเดียในขณะนี้ ถึงสาวรายหนึ่งให้ญาติตนเองยืมรถไปขับ แต่ผลปรากฏว่าญาติซึ่งเป็นลุงและป้า ขับรถไปชนจนพังยับจนถึงหม้อน้ำ ต้องนำไปเคลมทั้งคัน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวระบุว่า
“ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาโพสต์อะไรแบบนี้ กะว่าจะโพสต์ตอนผ่อนรถหมด ถ่ายรูปเล่ม ปิดจบสวยๆ แต่ไม่สวยอีกต่อไป 3 ปีเต็ม ที่ดูแลมาอย่างดี ไม่เคยชน หรือไปสกิดกับรถใคร เพราะรถราคาเป็นล้าน ทะนุถนอมมาอย่างดี ใช้กับต้าอยู่สองคน กะว่าหมดคันนี้จะอัปฯรุ่น และแล้ววันนี้ก็มาถึง ให้ญาติยืมไปต่างจังหวัด สิ่งที่ได้กลับมาคือ ตามในภาพเลย ไม่มีใครเป็นอะไรเลย
แต่รถเรา คือไม่ได้เลย ชนจนถึงหม้อน้ำ เคลมทั้งคัน
โมโหแบบสุดๆ รถเรา เราดูแลมาอย่างดี ผ่อนเองไม่เคยขอเงินที่บ้าน ก่อนจะออกจากบ้านเราทักแล้ว ถ้าไม่ไหวจอดนอนนะ สุดท้ายหลับในเข้าข้างทาง พอเกิดเหตุทุกคนนิ่ง ไม่มีแม้แต่คำขอโทษสักคำ ไม่คิดว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้กับครอบครัวตัวเอง ทุกอย่างที่เราหามาไม่ว่าเงิน รถ เราไม่เคยขอใครเลย แต่ตอนเรามี มีแต่ทุกคนอยากได้ อยากยืม แบบใจแม่งสลายอะ อยากให้ที่บ้านไม่อายเพื่อน มีนู้นนี่
แต่เหมือนเหนื่อยคนเดียวอะ แค่รถคันเดียวยังไม่ช่วยเราดูแลเลย จบแค่โพสต์นี้ จะไม่ช่วยเหลืออะไรญาติตัวเองอีกแล้ว เพราะทุกสิ่งที่หามา หามาเองและสุดท้าย ติดต่อส่งเครมเองทุกอย่าง ค่าประกันกุก็จ่ายเอง ไม่มีใครถามสักนิด ว่ารู้สึกยังไง สาเหตุที่ไม่ให้ใครยืมอะไรเพราะกุรู้ไง ว่าสักวันจะเป็นแบบนี้ พอไม่ให้ยืมมาว่าเกินไป ญาติยืมไม่ให้ยืม สักทีเหอะ พิมพ์ตอนโมโห โปรดเข้าใจด้วย
เตือนเพื่อนๆทุกคนเลย ว่ารถ ผัว ปืน อย่าให้ใครยืม จะเจ็บหนักแบบนี่!!!! ตอนนี้ก็คือร้องไห้ไม่ออก จุกอก
ปล.ถ้าชนเองจะไม่เจ็บใจ เท่าให้คนอื่นยืมแล้วพาไปชน”
นอกจากนี้เธอยังโพสต์ถึงสถานการณ์ล่าสุดอีกว่า
“ล่าสุดคือ ถามว่าไม่คิดจะขอโทษหน่อยหรอ ที่เอารถคนอื่นไปชนจนยับขนาดนี้”
บทสรุปคือ : ทำไมต้องขอโทษ มีสิทธิ์อะไรที่ต้องได้รับคำขอโทษ เป็นป้าเป็นลุง เป็นหลานไม่จำเป็นต้องขอโทษ
คิดดู หมดคำจะพูดเลยจริงๆ ดีแล้วแหละ ที่เจออะไรแบบนี้ ก็เจ็บกับคนเดิมๆมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอาไปนินทากับญาติบ้างแหละ เอาไปใส่ไข่บ้างแหละ ไม่เคยพูดเลยยยยยครั้งนี้คือได้รู้ไปเลย ดีย์”
ข้อมูลจาก : Zeepat Phatthiya
ภาพจาก : Zeepat Phatthiya