ประกันสังคม ม.33 อายุครบ 55 ปี ยื่นเรื่องขอรับเงินกรณีชราภาพอย่างไร
ประกันสังคม แจงผู้ประกันตน ม.33 เกษียณอายุครบ 55 ปี ยื่นเรื่องขอรับเงินกรณีชราภาพ เพียงดาวน์โหลดแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน และรับเงินผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน
วันนี้ (24พ.ย.64) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เกษียณอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว สามารถขอรับสิทธิเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญกรณีชราภาพ ตามเงื่อนไขและระยะเวลาการส่งเงินสมทบกรณีชราภาพที่ตนเองออมไว้ เช่น
กรณีผู้ประกันตนชำระเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนตลอดชีวิต หรือถ้าชำระเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ รับเป็นเงินก้อนครั้งเดียว
อย่างไรก็ดี ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่มีอายุเกิน 55 ปี ซึ่งยังคงมีนายจ้าง ที่ยังคงจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน และขอรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญกรณีชราภาพตามเงื่อนไขของผู้ประกันตนแต่ละคน
ทั้งนี้ การเพิ่มระยะเวลาการส่งเงินสมทบกรณีชราภาพจะยิ่งทำให้เงินออมที่สะสมในวัยเกษียณเพิ่มมากขึ้น
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า สำหรับการยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ ผู้ประกันตนสามารถดาวน์โหลดแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01) ได้ที่ www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคม กรอกข้อมูลให้ครบ
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มช่องทางการให้บริการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพผ่านบริการพร้อมเพย์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว มีความโปร่งใส ลดความผิดพลาด
โดยผู้ประกันตนไม่ต้องยื่นสำเนาหน้าบัญชีเงินฝากธนาคารกับสำนักงานประกันสังคมในการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ เป็นการลดการใช้กระดาษ (Paperless) ตามนโยบายของรัฐบาล เพียงดำเนินการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารที่ผู้ประกันตนเปิดบัญชีไว้
หากยังไม่มีการลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารที่ท่านเปิดบัญชีเงินฝากไว้ ขอให้ดำเนินการลงทะเบียนพร้อมเพย์ก่อนการยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ หากเป็นผู้ประกันตนที่ยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพไว้แล้ว สามารถแจ้งเปลี่ยนแปลงการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ จากการรับเงินโอนผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นผ่านบริการพร้อมเพย์
โดยสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทางไปรษณีย์หรือนำมายื่นด้วยตนเองที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาที่ท่านสะดวก
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการจ่ายเงินสมทบรายเดือนกับกองทุนประกันสังคมนั้นมิได้สูญเปล่า เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่างการทำงานมากมายแล้ว เมื่อถึงวัยเกษียณก็ยังคงอุ่นใจได้ว่ามีเงินออมชราภาพไว้เป็นหลักประกันอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันสังคม โทร.1506 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวกได้ทุกแห่งในวันและเวลาราชการ
ข้อมูลจาก ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
ภาพจาก สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน / TNN ONLINE