TNN (มีคลิป) เกาะติดน้ำท่วมปี 64 จับตาพายุ “คมปาซุ”แรงกว่า “ไลออนร็อก”

TNN

สังคม

(มีคลิป) เกาะติดน้ำท่วมปี 64 จับตาพายุ “คมปาซุ”แรงกว่า “ไลออนร็อก”

(มีคลิป) เกาะติดน้ำท่วมปี 64  จับตาพายุ “คมปาซุ”แรงกว่า “ไลออนร็อก”

เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมปี 64 หลังพายุไลออนร็อก ยังมีพายุลูกใหม่ที่ต้องจับตา ที่อาจรุนแรงกว่าคาดว่าจะเริ่มกระทบกับประเทศไทยในวันที่ 14 ต.ค.

วันนี้ ( 11 ต.ค. 64 )พายุอีกลูก ที่หลายฝ่ายจับตา และกังวลว่าจะมีกำลังแรงกว่าพายุไลออนร็อก และส่งผลกระทบต่อสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ หรือ ปี 2564  คือ พายุโซนร้อน “คมปาซุ” ซึ่งพายุลูกนี้ยังอยู่ที่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก หรือทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปินส์

สำหรับเส้นทางพายุ คมปาซุ วันนี้  จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น หรือ JMA มีการเปิดเผยว่า พายุกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ทะเลจีนใต้ ด้วยความเร็วลม 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือความเร็วลมอยู่ในระดับปานกลาง

วันที่ 12 ตุลาคม พายุลูกนี้ จะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้  จะเริ่มแรงขึ้น ด้วยความเร็วลม 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวันที่ 13 ตุลาคม พายุคมปาซุ จะเข้าเกาะไหหลำ และเมื่อขึ้นฝั่งที่ไหหลำ ความเร็วลมจะลดลงเหลือ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  แต่มีคำเตือนอันตราย ความรุนแรงของพายุลูกนี้ เมื่อขึ้นฝั่ง จะมีความรุนแรงกินพื้นที่รัศมีมากถึง 190 กิโลเมตร

(มีคลิป) เกาะติดน้ำท่วมปี 64  จับตาพายุ “คมปาซุ”แรงกว่า “ไลออนร็อก”

จากนั้นวันที่ 14 ตุลาคม คาดการณ์ว่า พายุลูกนี้จะเคลื่อนไปยังประเทศเวียดนามตอนบน โดยความเร็วลมยังเท่าเดิมคือ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อพายุมาถึงเวียดนาม จะเริ่มส่งผลกระทบกับประเทศไทยในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน และภาคเหนือ และวันที่ 15 ตุลาคม พายุลูกนี้จะเคลื่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบภาคอีสานและภาคเหนือมีฝนตก ก่อนที่พายุจะสลายตัว

(มีคลิป) เกาะติดน้ำท่วมปี 64  จับตาพายุ “คมปาซุ”แรงกว่า “ไลออนร็อก”

แต่จากแผนที่ภูมิอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่า รัศมีของพายุ คมปาซุ กินพื้นที่เป็นวงกว้าง ซึ่งกระทบในพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทั้งนี้ต้องติดตามพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด หากไม่ถูกมวลอากาศเย็นทำให้อ่อนตัวลง ก็อาจถูกกดให้ลงมาต่ำกว่านี้ ซึ่งอาจจะทำให้มีผลกระทบในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานครด้วย


ข่าวแนะนำ