สรรพากรขยายเวลาชำระภาษีเงินได้- ภาษีมูลค่าเพิ่มสิ้นสุด 30 ก.ค.นี้
คลังออกประกาศขยายเวลายื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย -ภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปจนถึงสิ้นเดือนก.ค.นี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังได้การขยายเวลายื่นแบบฯ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์จากที่บ้านหรือ Tax from Home ช่วยลดความแออัดและความเสี่ยงจากโรคโควิดและ เพิ่มสภาพคล่องในมือผู้ประกอบการให้มีมากขึ้นและนานขึ้น โดยไม่ได้กระทบการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังต้องบริหารจัดการกระแสเงินสดเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาการชำระภาษีที่เลื่อนออกไป
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรได้ขยายเวลาการยื่นแบบฯ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด. 1 ภ.ง.ด. 2 ภ.ง.ด. 3 ภ.ง.ด. 53 และ ภ.ง.ด. 54) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 30 และ ภ.พ. 36) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ถึงวันสุดท้ายของเดือนที่ต้องยื่นแบบฯ โดยให้เริ่มขยายเวลาสำหรับการยื่นแบบฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถึงเดือนมิถุนายน 2564
สำหรับการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบฯ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในครั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ดังนี้ 1. การยื่นแบบและชำระภาษีในเดือนกรกฎาคม จากกำหนดเดิมที่ต้องยื่นภายในวันที่ 15 หรือ 23 กรกฎาคม ขยายออกไปเป็นภายในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ 2. การยื่นแบบและชำระภาษีในเดือนสิงหาคม จากกำหนดเดิมที่ต้องยื่นภายในวันที่ 15 หรือ 23 สิงหาคม ขยายออกไปเป็นภายในวันที่ 31 สิงหาคม
“ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการผ่านการทำธุรกรรม ภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์จากที่บ้านหรือ Tax from Home ซึ่งทำให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นและนานขึ้นกว่า 280,000 ล้านบาท และช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด เช่น การขยายเวลายื่นแบบฯ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำหรับการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบฯ ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเว้นระยะห่าง หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ตามมาตรการของภาครัฐ และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)”