TNN Supreme x หลวงพ่อคูณ กรมทรัพย์สินฯ ชี้ผ้ายันต์มีลิขสิทธิ์ นำไปใช้ต้องขอก่อน

TNN

สังคม

Supreme x หลวงพ่อคูณ กรมทรัพย์สินฯ ชี้ผ้ายันต์มีลิขสิทธิ์ นำไปใช้ต้องขอก่อน

Supreme x หลวงพ่อคูณ กรมทรัพย์สินฯ ชี้ผ้ายันต์มีลิขสิทธิ์ นำไปใช้ต้องขอก่อน

Supreme x หลวงพ่อคูณ กระแสแรง! กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ชี้ “ผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณ” มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง Supreme นำไปใช้ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง

วันนี้ (18 ก.พ.64) กำลังเป็นที่พูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจาก Supreme แบรนด์สินค้าแฟชันชื่อดัง เปิดตัวคอลเลกชัน Spring/Summer 2021 โดยปรากฏภาพเสื้อสกรีนลายผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดประเด็นดราม่าว่าการนำผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณไปใช้ลักษณะนี้เข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่


ล่าสุด นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ข้อมูลตามกฎหมายลิขสิทธิ์ รูปหลวงพ่อคูณที่ปรากฏในผ้ายันต์ ถือเป็นงานศิลปกรรม จัดเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ประเภทหนึ่ง โดยผู้สร้างสรรค์จะได้รับความคุ้มครองทันที เมื่อสร้างสรรค์ผลงานนั้นขึ้นมา ซึ่งกฎหมายจะให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ เช่น ทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณะ หรืออนุญาตให้ผู้อื่นนำงานไปใช้ประโยชน์ เป็นต้น ดังนั้น การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับงานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้


จากการตรวจสอบในฐานข้อมูลลิขสิทธิ์ของกรมฯ พบว่า มีผู้มายื่นแจ้งข้อมูลงานลิขสิทธิ์เกี่ยวกับหลวงพ่อคูณไว้ 21 รายการ ประกอบด้วย ผลงานเพลง 15 รายการ งานวรรณกรรม 1 รายการ (หนังสือเจาะลึกข้อมูลเหรียญรุ่นพิเศษ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ปี 2517) งานโสตทัศนวัสดุ 1 รายการ (สารคดีเรื่องแรงศรัทธาแด่หลวงพ่อคูณ) และงานศิลปกรรม 4 รายการ ได้แก่ รูปปั้น รูปหล่อ เหรียญ โดยไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณลักษณะดังกล่าวในระบบ


หากวัดบ้านไร่ ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล เป็นผู้จัดทำผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณนี้ขึ้นมา โดยมีหลักฐานยืนยันการสร้างสรรค์งานลิขสิทธิ์นี้ จะได้รับความคุ้มครองเป็นระยะเวลา 50 ปี นับตั้งแต่วันที่สร้างสรรค์ขึ้น ส่วนการพิจารณาว่ากรณีใดๆ จะเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ อาจต้องพิจารณาในรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นรายกรณีไป สำหรับการนำงานลิขสิทธิ์มาประยุกต์ใช้หรือสร้างสรรค์เป็นผลงานใหม่ๆ สามารถทำได้ โดยสามารถเจรจาในการขออนุญาตใช้สิทธิ์ หรือทำการตกลงเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน


สำหรับกรณีหากมีข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาเกิดขึ้น กรมฯ มีบริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาและยุติข้อพิพาทโดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล รายละเอียดสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.ipthailand.go.th หรือติดต่อกองกฎหมาย กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร.02 547 5029 ในวันและเวลาราชการ

ข่าวแนะนำ