กรมวิทย์ฯ เตรียมพร้อมน้ำยาชุดทดสอบ "ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่" 5,000 ชุด
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลิตชุดน้ำยาทดสอบระดับโมเลกุลในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้เอง 5,000 ชุด ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงจึงทราบผล
วันนี้ (28 ม.ค.63) ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง จากห้องปฏิบัติการ หน่วยงานรัฐ เช่น สถาบันการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลเลิดสิน สถาบันบำราศนราดูร ได้ร่วมประชุมหารือ ถึงการพัฒนาชุดตรวจ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประธาน ซึ่งการประชุมนี้เป็นการประชุมเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ครั้งที่ 1 ซึ่งได้พูดคุยถึงสถานการณ์ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 แก่เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการหารือ ในการแบ่งปันชุดน้ำยาทดสอบในการหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แก่ห้องปฏิบัติการด้วย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ผลิตชุดน้ำยาทดสอบระดับโมเลกุลในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้เอง โดยไม่ต้องนำเข้า ขณะนี้เตรียมไว้ 5,000 ชุด หากไม่เพียงพอ ก็สามารถผลิตใหม่เพิ่มเติมได้ และปลายสัปดาห์นี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 14 แห่ง นอกเหนือในกรุงเทพมหานคร จะสามารถตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม 2019 ได้
ซึ่งการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 ที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียง3 ชั่วโมงเท่านั้น จึงทราบผล เนื่องจากมีต้นแบบยีนส์เชื้อไวรัสโคโรนาวายพันธุ์ใหม่ และชุดน้ำยาทดสอบที่มีประสิทธิภาพ
แต่ละวัน มีการส่งตัวอย่าง ผู้สงสัยติดเชื้อที่เข้าเกณฑ์คัดกรอง ของกรมควบคุมโรค กว่า 30-40 ราย ต่อวัน เพื่อมาตรวจยังห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ส่วนใหญ่พบว่าไม่เข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม 2019
ที่ผ่านมาการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในผู้ป่วยเพื่อทำการยืนยัน ทำใน 2 ห้องปฏิบัตการ คือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ ห้องปฏิบัติการ ศูนย์วิทยาศาตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทั้ง 2 แห่ง ต้องมีผลที่ตรงกัน
นอกเหนือจากนี้ ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค หรือ PUI ต้องถูกประเมินจาก3 ส่วน คือ อาการป่วย มีไข้ อาการทางเดินหายใจ ประวัติการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง การสัมผัส และผลจากห้องปฏิบัติการ จากนั้นจะนำ ข้อมูลทั้ง 3 ส่วน เข้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส ด้านระบาดวิทยา และด้านคลินิก พิจารณาร่วมกัน
เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
