โอนเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1 พันบาท เริ่ม 16 ธ.ค. เช็กวิธีการสอบตรวจสอบสถานะที่นี่
โอนเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1 พันบาท เริ่ม 16 ธ.ค. ตามภูมิภาค เช็กวิธีการตรวจสอบสถานะได้ที่นี่
จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 จ่ายไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือนโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะดำเนินการไปกำหนดการวางแผนจ่ายเงินให้กับชาวนา โดยทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินไร่ละ 1,000 บาท กำหนดแบ่งการโอนเป็นรอบต่อไป
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะเป็นผู้ออกเงินให้กับชาวนาจำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน ด้วยวงเงินงบประมาณ 38,578.19 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16-20 ธ.ค. 2567 ซึ่งจะโอนเงินตรงเข้าสู่บัญชีของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรตามภูมิภาค
- วันที่ 16 ธ.ค. 67 - ภาคเหนือ
- วันที่ 17 ธ.ค. 67 - ภาคกลางและภาคตะวันออก
- วันที่ 18 ธ.ค. 67 - ภาคอีสานตอนบน
- วันที่ 19 ธ.ค. 67 - ภาคอีสานตอนล่าง
- วันที่ 20 ธ.ค. 67 - ภาคตะวันตกและภาคใต้
ขั้นตอนตรวจสอบสถานะเกษตรกรออนไลน์ ผ่าน e-Form ดังนี้
เข้าเว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th/ ไปกล่องสีเขียวบนหน้าจอด้านขวามือ เลือก "ตรวจสอบ" กรอกข้อมูลตามหน้าเว็บไซต์แนะนำ ระบุเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ระบุเลขรหัสหลังบัตรประชาชนเลือก "ตรวจสอบ" ระบบจะแสดงข้อมูลสถานะสถานะโครงการฯ 2567/68
โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 มีขั้นตอนดังนี้
1. เข้าสู่เว็บไซต์เช็กสถานะโอนเงินได้ที่ chongkho.inbaac.com ตลอด 24 ชั่วโมง เข้าสู่ระบบด้วย Digital ID จะมีรายละเอียดเปิดบัญชีจำนวนเงิน และ โครงการช่วยเหลือที่ได้รับผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับเงินแล้ว หน้าจอจะแสดงผลสถานะการโอนกรณีไม่พบข้อมูลการขึ้นทะเบียน โปรดติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามชนิดพืชที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเพื่อรับสิทธิ์ต่อไป
2. ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. BAAC Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเอง
3. เช็กจาก บัตร ATM
4. ปรับสมุดเงินฝากที่ธนาคาร
5. SMS Alert
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝากและติดต่อกับ ธ.ก.ส. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินตามโครงการ กรณีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรอาจยังไม่สมบูรณ์หรือข้อมูลทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) ยังไม่ส่งมาที่ ธ.ก.ส. และต้องแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้แล้วเสร็จก่อน กรณีปัญหา ชื่อ - สกุล ของข้อมูลทะเบียนเกษตรไม่ตรงกับข้อมูลบัญชีเงินฝากบัญชีไม่เคลื่อนไหวถูกปิด บัญชีถูกอายัด
หากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป หากผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร ตรวจสอบระบบจะขึ้นข้อมูลว่า ไม่พบข้อมูลการลงทะเบียน (โปรดติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามชนิดพืชที่ได้รับสิทธิตามโครงการ) โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เกษตรอำเภอในพื้นที่หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่
ภาพจาก: AFP
ข่าวแนะนำ
-
เฝ้าระวัง "โนโรไวรัส" ระบาดในเด็ก
- 13/12/67