ป.ป.ส.ทลายเครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติชายแดนแม่สาย ยึดทรัพย์ 100 ล้าน
ป.ป.ส.นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายใหญ่ เพราะทำหน้าที่คอยสั่งการนำเข้ายาเสพติดประเภทเฮโรอีน เพื่อส่งต่อไปประเทศที่สาม โดยใช้ภรรยาและคนในครอบครัวที่เป็นคนไทยเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินแทน เบื้องต้นจากการตรวจค้นพบเงินสดกว่า 4 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน สามารถยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบรวมกว่า 100 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ อินทรีย์ 19 (หนึ่งเก้า) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 หลัง ใน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังสืบสวนพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และเป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้ค้ายารายใหญ่ โดยจากการตรวจค้นบ้านหลังแรก มีหญิงสาวรายหนึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมยอมรับว่าเป็นอดีตภรรยาของผู้ต้องหา หรือ ตัวการใหญ่ชาวเมียนมาที่ถูกทางการไทยออกหมายจับ แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันนานแล้ว และอดีตสามี หรือ ผู้ต้องหาจะเดินทางมาพักที่บ้านเดือนละ 2 ครั้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมียนมา เดินทางเข้าไทยเพื่อมาหาหมอตามนัดเท่านั้น ซึ่งระหว่างการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบเงินสดเก็บไว้ในตู้เซฟห้องนอนรวมกว่า 4 ล้านบาท ยังไม่รวมกับสกุลเงินหยวน และสกุลเงินดอลลาร์ อีกจำนวนหนึ่ง จากการสอบถามหญิงสาวเจ้าของบ้านระบุว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการขายที่ดินในฝั่งเมียนมา ส่วนบ้านอีกหนึ่งหลัง ที่เข้าตรวจค้นพบว่ามีความเชื่อมโยงเป็นเครือญาติกับบ้านหลังแรก
ทั้งนี้จากการสืบสวน พบว่าเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายเดียวกันกับที่ถูกจับกุมพร้อมเฮโรอีน 91 กิโลกรัม เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา (2567) ก่อนจะขยายผลออกหมายจับเพิ่มเติม 6 คน ล่าสุดจากการลงพื้นที่ตรวจค้นครั้งนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน และจากการสืบสวนพบมีเงินหมุนเวียนที่สามารถยึดทรัพย์สินซึ่งคาดว่าได้มาจากการค้ายาเสพติดไว้ตรวจสอบกว่า 100 ล้านบาท
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.ได้ลงพื้นที่สอบปากคำหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ รับสารภาพว่าเป็นเพียงผู้ว่าจ้างไปรับสินค้ามาส่งต่อ และปฏิเสธไม่ทราบว่าสินค้าที่รับจ้างขนนั้นเป็นยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผล พร้อมเปิดเผยว่า แม้เฮโรอีนที่ผู้ต้องหาเครือข่ายนี้ลำเลียงเข้ามาจะส่งต่อไปประเทศที่ 3 แต่ระยะหลังในประเทศไทยก็เริ่มหันมาใช้เฮโรอีนเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากยาบ้า รัฐบาลจึงกำชับให้ยกระดับแก้ปัญหายาเสพติดให่เข้มข้นขึ้น โดย ป.ป.ส.พยายามจะใช้กฎหมายความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น สนธิสัญญา M LAT (เอ็ม แลต) เพื่อช่วยเหลือกันทางด้านกฎหมาย เช่น สอบสวนผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย และรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดไปถึงต้นตอผู้สั่งการ ไปจนถึงแหล่งผลิต
สำหรับปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ จ.เชียงรายครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการ ตัดไฟแต่ต้นลม ได้ปูพรมตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 11 จุด ใน 5 จังหวัด คือ เชียงราย พิษณุโลก กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และชลบุรี ซึ่งทั้งหมดเป็นเครือข่ายเดียวกัน กระจายกันทำหน้าที่ ตั้งแต่คนคอยสั่งการจัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน มีผู้รับช่วงต่อคอยลำเลียงเข้ามาตามแนวชายแดน ส่งต่อให้ขบวนรถที่รับจ้างขนยาเสพติดเข้าพื้นที่ชั้นในก่อนส่งต่อไปประเทศที่สาม โดยในเครือข่ายนี้มีชาวเมียนมา 2 คน และคนไทย 4 คน เบื้องต้นสามารถจับกุมได้แล้ว 3 คน ยังคงหลบหนีอีก 3 คน
ข่าวแนะนำ
-
- 25/11/67