ไทยยังไม่พบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A - B กลายพันธุ์ วัคซีนยังป้องกันได้

นายแพทย์ ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยในปัจจุบัน พบไข้หวัดใหญ่ A(H1N1) มากที่สุด ร้อยละ 41.25 ชนิด A(H3N2) ร้อยละ 32.24 และชนิด B (Victoria) ร้อยละ 26.51 จากการวิเคราะห์สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมทั้งจีโนม และประเมินความสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่องค์การอนามัยโลกประกาศสำหรับซีกโลกใต้ ปี 2024 

พบว่าไข้หวัดใหญ่ชนิด A/Victoria/4897/2022 (H1N1) พบในประเทศไทยช่วงเดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 5.32 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงนัก แต่สำหรับวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยในปี 2566 นั้น เป็นสายพันธุ์ A/Sydney/5/2021 (H1N1) ที่แตกต่างจากสายพันธุ์นี้เล็กน้อย แสดงถึงความแตกต่างของสายพันธุ์ที่ใช้ในวัคซีน เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่ระบาดในช่วงเวลาต่อมาในประเทศไทย

โดยไข้หวัดใหญ่ชนิด A/Thailand/8/2022 (H3N2) พบในประเทศไทยร้อยละ 100 และตรงกับ สายพันธุ์ที่ระบุในวัคซีนซีกโลกใต้ ปี 2024 ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องสูงในการป้องกันจากวัคซีน ส่วนไข้หวัดใหญ่ชนิด B/Austria/1359417/2021 พบในประเทศไทย ร้อยละ 100 และตรงกับสายพันธุ์วัคซีนซีกโลกใต้ ปี 2024 ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องในการป้องกันจากวัคซีน

สำหรับผลวิเคราะห์การกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมการผลิตเอนไซม์นิวรามินิเดสจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ประจำเดือนกันยายน 2567 จำนวน 85 ตัวอย่าง เชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H3 ไม่พบการกลายพันธุ์ที่บ่งชี้การดื้อยา เชื้อสายพันธุ์นี้ยังคงตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัสได้ดี 

เชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H1N1) พบการกลายพันธุ์บ่งชี้ถึงการดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ 1 สายพันธุ์จำเป็นต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด แต่เหตุการณ์พบเชื้อดื้อยายังเกิดขึ้นไม่บ่อย โดยพบเชื้อที่มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งนี้ 6 สายพันธุ์ และ ยังควบคุมการดื้อยาได้ เชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด B ไม่พบการกลายพันธุ์ที่บ่งชี้การดื้อยา สายพันธุ์นี้ยังคงตอบสนองการรักษาตามปกติ

ทั้งนี้ ยังเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการดื้อยาและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันโรค ปัจจุบัน สถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยยังป้องกันได้ดี

ภาพจาก: TNN ONLINE