TNN เช็กด่วน! ศปช. เตือนหลายจังหวัด เฝ้าระวังร่องมรสุมพายุโซนร้อน 26 - 27 ต.ค.

TNN

สังคม

เช็กด่วน! ศปช. เตือนหลายจังหวัด เฝ้าระวังร่องมรสุมพายุโซนร้อน 26 - 27 ต.ค.

เช็กด่วน! ศปช. เตือนหลายจังหวัด เฝ้าระวังร่องมรสุมพายุโซนร้อน 26 - 27 ต.ค.

โฆษกรัฐบาล เผยสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก อ.บ้านไร่ จ.อุทัย น้ำลดลง เตือนเฝ้าระวังผลกระทบจากร่องมรสุมพายุโซนร้อน ช่วง 26 - 27 ตุลาคม

วันนี้ (20 ตุลาคม 2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า เตือนประชาชนเฝ้าระวังผลกระทบจากร่องมรสุมพายุโซนร้อน ช่วงวันที่ 26 - 27 ตุลาคม ในพื้นที่จังหวัด


-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา และบึงกาฬ 


-ภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี นครนายก ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ 


-ภาคกลาง ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด พื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 


-ภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และภูเก็ต 


ในส่วนของจังหวัดอุทัยฯ ขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำฝน ลมกรรโชกแรง ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 19 - 23 ตุลาคมนี้ สำหรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเมื่อคืน (19 ต.ค.67) ที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเกิดฝนตกหนักสะสม 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 130 - 168 มม. และปัจจุบันน้ำเริ่มลดลง 


นายจิรายุ กล่าวว่า ทางผู้ว่าฯ อุทัยธานี ได้ประกาศเขตภัยพิบัติอ.บ้านไร่ มอบหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีรถน้ำนำรถน้ำเข้าพื้นที่อ.บ้านไร่ เพื่อทำความสะอาดฟื้นฟูในจุดที่ได้รับความเสียหาย และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจพื้นที่และบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการแล้ว 


ทั้งนี้ ทางด้าน พ.อ.มหิธร บุญครอง ผบ.หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา หรือ นพค. 15 ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็วของหน่วยฯพร้อมยุทโธปกรณ์ประกอบด้วยรถยนต์ 2 คัน และรถบรรทุกน้ำ 6,000 ลิตร 1 คันบูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ อ.บ้านไร่ เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ชุมชน 


นอกจากนี้ จะยังคงกำลังไว้คอยสนับสนุนที่อำเภอบ้านไร่เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศปช. ได้มีการสั่งการให้ เจ้าหน้าที่และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตรวจสอบ เฝ้าระวังในพื้นที่ได้รับผลกระทบและจุดเสี่ยงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันต่อไป พร้อมทั้งเน้นย้ำ การรื้อฟื้น การดำเนินตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยในพื้นที่จุดเสี่ยงแก่พี่น้องประชาชน ให้มีความพร้อมรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์อุทกภัยและน้ำท่วมฉับพลัน เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง