กรมอุตุฯ ตั้งศูนย์ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่น “ยางิ (NAGI)”
กรมอุตุนิยมวิทยา เผย ถึงแม้วันที่ 7-8 ก.ย.นี้ พายุไต้ฝุ่น "ยางิ" จะอ่อนกำลังลง แต่ไทยยังจะได้รับผลกระทบฝนตกหนักต่อเนื่อง จากร่องมรสุม
กรมอุตุนิยมวิทยาตั้งศูนย์อำนวยการติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “ยางิ (NAGI)” เพื่อเตรียมความพร้อมและรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากพายุไต้ฝุ่นนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทั้งนี้ได้ออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 7-8 กันยายนนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลและประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายบริหาร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากการณ์ติดตามคาดว่าพายุไต้ฝุ่น “ยางิ (NAGI)”จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองกว๋างนินห์ ประเทศเวียดนาม ในวันนี้ (7 ก.ย. 67) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7-8 ก.ย. 67 และถึงแม้พายุ ยางิจะอ่อนกำลังลงแต่ประเทศไทยยังจะได้รับผลกระทบฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 9-12 ก.ย.67 เนื่องจากร่องมรสุมยังอยู่
ทั้งนี้ในส่วนของ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย. 67 นี้ไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวแนะนำ