TNN ไทยเสี่ยงต่ำ"ฝีดาษลิง"พันธุ์ใหม่ระบาด

TNN

สังคม

ไทยเสี่ยงต่ำ"ฝีดาษลิง"พันธุ์ใหม่ระบาด

ไทยเสี่ยงต่ำฝีดาษลิงพันธุ์ใหม่ระบาด

กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษลิงสายพันธุ์ย่อยใหม่อย่างใกล้ชิด หลังพบมีการระบาดเพ้มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศทางแอฟริกา และอัตราการป่วยติดเชื้อสูงในเด็ก ขณะที่ประเทศไทยยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าว ยืนยันมีระบบตรวจจับ หากพบสายพันธุ์ดังกล่าวในประเทศไทย

นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ  นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค  ระบุถึง สถานการณ์โรคติดเชื้อฝีดาษลิงในประเทศไทย หากเทียบในปี 2566 กับ 2561 ถือว่าในปีนี้ สถานการณ์ดีขึ้น โดยตั้งแต่ มกราคม 2567 จนถึง 14 สิงหาคม  2567 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 140 คน  เสียชีวิต 3 คน  ทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อ HIV    ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงตั้งแต่ปี 2565- 2567  รวมสะสม  827 คน   เสียชีวิต 11 คน ยังคงเป็นผู้ป่วยติดเชื้อที่เป็น HIV ร่วมด้วย เมื่อติดเชื้อฝีดาษลิง จึงทำให้มีอาการรุนแรงภูมิคุ้มกันต่ำ  โดยอาการที่พบบ่อยใน 5 อันดับ  คือ  มีผื่น  มีไข้  ปวดกล้ามเนื้อ  ต่อมน้ำเหลืองโตและอาการคัน


สำหรับสายพันธุ์ ที่มีการระบาดในทั่วโลกอยู่ขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ ได้แก่สายพันธุ์ Clade 1   หรือ สายพันธุ์แอฟริกากลาง ที่มีความรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิต พบการระบาดในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันออกเป็นหลัก  มีอัตราการป่วยตายสูง // และ สายพันธุ์ Clade 2 หรือ สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์แอฟริกากลางมาก   ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ในไทยและในหลายประเทศทั่วโลก 


พญ.จุไร  วงศ์สวัสดิ์  นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยรองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุถึงสถานการณ์ผู้ป่วยฝีดาษลิงในทวีปแอฟริกา ตั้งแต่ ปี 2565 - 2567 มีผู้ป่วยสะสม 14,250 ราย เสียชีวิต 456 คน โดย 

สถานการณ์ในปี 2567 พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 97


สำหรับสายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกากลางและที่ทั่วโลกกังวล เฝ้าระวังในขณะนี้ คือสายพันธุ์ Clade 1b  ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์แอฟริกากลาง ที่มีการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ในช่วงที่ผ่านมา และพบผู้ป่วยเด็กเพิ่มมากขึ้น โดยสายพันธุ์ดังกล่าวยังไม่พบในประเทศไทยและไทยยังมีความเสี่ยงต่ำในการระบาด 


พญ.จุไร  ยืนยันว่า ประเทศไทยได้มีการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิงและจับตาสถานการณ์การระบาดในประเทศแถบแอฟริกากลาง โดยเฝ้าระวังในประชาชนที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้สังเกตอาการ หากมีผื่น มีตุ่มน้ำ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณรอบๆมือเท้า หน้าอก ใบหน้า หรือส่วนอื่นๆของร่างกาย รวมถึงมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณหลังหู คอ ขาหนีบ ให้รีบเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลทันที   ส่วนกรณีที่องค์การอนามัยโลกจ่อยกระดับการเฝ้าระวังฝีดาษลิงสายพันธุ์ดังกล่าวนั้น ทางกรมควบคุมโรคก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด 


คำแนะนำในการป้องกันฝีดาษลิง ยังคงย้ำ หลีกเลี่ยงการ มีเพศสัมพันธ์กับคนไม่รู้จัก  ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว ร่วมกับผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าขนหนู หรือเครื่องนอนต่างๆ  หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีผื่นสงสัยโรคฝีดาษลิง  ไม่สัมผัสตุ่มหนองหรือบาดแผล   และควรบริโภคเนื้อสัตว์ปรุงสุก หลีกเลี่ยงไปในสถานที่ที่อาจเสี่ยงติดโรคฝีดาษลิงได้ 

ข่าวแนะนำ